"ภูมิใจไทย" เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. ดัน "แกร็บ-แอร์บีเอ็นบี" ถูกกฎหมาย

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่พรรคภูมิใจไทย มีการจัดการประชุมทางวิชาการ หัวข้อ "Sharing Economy ศึกษากรณี Grab และ Airbnb" โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกพรรค นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ(ประเทศไทย) จำกัด  นายสาโรจน์ อุ่นวัฒนนุกูล แอร์บีเอ็นบี ซูเปอร์โฮสต์ และนายขรรค์ชัย อาราม ผู้บริหารโครงการบีสเตย์



นายศักดิ์สยามกล่าวสรุปในงานเสวนา ความตอนหนึ่งว่า แชร์ริ่ง อีโคโนมี่ คือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน เช่น แกร็บแท็กซี่ถูกกฎหมาย และแอร์บีเอ็นบี ซึ่งคือการปล่อยห้องว่างในบ้านของบุคคลทั่วไปให้สามารถเป็นที่พัก สร้างรายได้ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน  เพราะทำให้ประชาชนคนไทยมีโอกาส มีรายได้มากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา เหตุใดประเทศไทยจึงไม่ทำให้เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เห็นเรื่องนี้มานานแล้ว และจะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม




โดยภูมิใจไทยขอเป็นผู้เริ่มนำระบบเศรษฐกิจแบ่งปันเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย จากนี้เราจะมาดูว่ากฎหมายหรือระเบียบใดที่เป็นข้อจำกัด เวลานี้ประเทศเพื่อนบ้านได้นำมาใช้กันหมดแล้ว อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์ เราต้องทำ เชื่อว่าคนไทยมีความรู้และสามารถเลือกได้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับชีวิตเขา  และเราอยากรู้เช่นกันว่าประชาชนคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะตนเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรื่องนี้สำเร็จได้ ประชาชนต้องเห็นร่วมกันว่าสิ่งนี้เป็นประโยชน์ ความเห็นของวิทยากรในงานเสวนาวันนนี้เป็นประโยชน์ และเพิ่มความมั่นใจให้กับพรรคว่าจะสามารถทำได้จริง


จากนี้ ภูมิใจไทยจะนำความเห็นของผู้ประกอบการมาปรับใส่ในร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เพื่อให้เกิดความครอบคลุม แล้วนำขึ้นยังเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น และเตรียมล่ารายชื่อ 10,000 คนเพื่อเสนอเป็นกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทันที เพราะในกรณีของแกร็บ แท็กซี่ และ แอร์บีเอ็นบี บางเรื่องไม่ต้องเขียนกฎหมายใหม่ เพียงแค่แก้กฎกระทรวง ทุกอย่างก็เดินหน้าได้



นายศักดิ์สยามยังระบุว่า การเสนอเรื่องแกร็บแท็กซี่ อาจจะกระทบกับบางฝ่ายบ้าง แต่เราต้องการทำทุกอย่างให้มีคุณภาพ คุ้มค่า ประชาชนได้ประโยชน์ ถ้าหากกลัวหรือกังวลกับทุกเรื่อง ประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าได้  สิ่งที่ภูมิใจไทยทำในวันนี้ เรายึดประโยชน์ของคนทั้งประเทศเป็นหลัก หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ตนเชื่อว่าทุกคนจะปรับตัวและได้ประโยชน์จากมัน ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าความเห็นต่างๆจะไม่ได้มาจากประชาชนในฐานะผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์นั้น พรรคภูมิใจไทยได้ให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวบรวมความเห็นจากทุกภาคที่เรามีผู้สมัคร เพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลจริง ยืนยันไม่ได้ลักไก่หรือเสนอตามความต้องการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแน่นอน