แถลงการณ์ ระบุว่า ความพยายามในการบ่งชี้ว่า เฟซบุ๊ครับรู้เกี่ยวกับการแทรกแซงของรัสเซีย อีกทั้งยังมองข้ามหรือพยายามกีดกันไม่ให้เกิดการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมอย่างมาก และนายซัคเคอร์เบิร์กยังปกป้องบริษัทด้วยการระบุว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเฟซบุ๊คไม่สนใจในข้อเท็จจริง ไม่เป็นความจริง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นหลังเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ที่นายซัคเคอร์เบิร์ก เข้าให้การต่อสภาคองเกรส กรณีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊คจำนวน 50 ล้านคน โดยซัคเคอร์เบิร์กได้กล่าวคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ตอบคำถามจากสมาชิกสภาคองเกรส
เฟซบุ๊คเผชิญผลกระทบอย่างหนัก หลังจากมีข่าวออกมาว่าแคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊คจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเอื้อประโยชน์ต่อทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ส่งผลให้เฟซบุ๊คต้องจ้างบริษัทสตรอซ ฟรีดเบิร์ก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์พยานหลักฐานด้านดิจิทัลเข้ามาสืบสวนกรณีนี้