ดีเดย์ ก.ค.62 บังคับใช้ผังเมือง EEC
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจจัดสัมมนา NEXT Step Thailand : EEC ยุทธศาสตร์ไทยเชื่อมโลก ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจมากมายจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ติดตามรายละเอียดจากคุณวชิรวิทย์ เลิศบำรุงชัย
3 แสนไร่ คือพื้นที่อุตสาหกรรมในผังเมืองใหม่ของพื้นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง มณฑล สุดประเสริฐ บอกถึงความคืบหน้าการจัดทำผังเมืองนี้ ว่า จะเสร็จเรียบร้อยใน กลางเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ราวเดือนกรกฎาคม ปี 2562 ซึ่งถือว่ามีความรวดเร็วกว่าปกติที่ขั้นตอนการจัดทำผังเมืองเฉพาะ จะต้องใช้เวลาดำเนินการ 2 ปีครึ่ง
พื้นที่อุตสาหกรรม คิดเป็น 3-4% ของพื้นที่ทั้งหมด ใน 3 จังหวัด คือระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา จะมีความเพียงพอที่จะรองรับการลงทุน เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวกำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมเดิม ขณะเดียวกันพื้นที่บางส่วนจะจัดเพื่อรองรับการอยู่อาศัย ของประชากรที่จะเพิ่มขึ้น เดิมอีกเท่าตัว ราว 6-7 ล้านคน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ในฐานะรองประธานกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC บอกว่าประเทศไทยกินบุญเก่ามานาน อนาคตจะลำบากหากไม่มีโครงการใหญ่ใหม่ ๆ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา สั่งการว่าโครงการนี้เป็นโครงการสำคัญมาก และมีเวลาอีกไม่นานจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ต้องทำให้EEC เกิดขึ้นจริง เหมือนอย่างที่ยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีอีสเทินร์ซีบอร์ด ยุครัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุมหะวัน มีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ส่วนยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จะต้องมี EEC เป็นผลงานสำคัญ
ล่าสุดนอกจากโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินแล้ว กำลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนศึกษาการลงทุนท่าเรือระนอง-รถไฟทางคู่ เชื่อมโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ภาคใต้ หรือ SEC กับ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC วงเงิน 20,000 ล้าน โดยแผนจะเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2562
ดร.กอบศักดิ์ บอกอีกว่า หากนักลงทุนคิดถึงเอเชียต้องคิดถึง EEC โดยการพัฒนาตั้งแต่แหลมฉบัง สัตหีบ มาถึงมาบตาพุด 150 ตารางเมตร จะถูกพัฒนาเป็นกรุงเทพใหม่ หรือ กรุงเทพแห่งที่ 2 ซึ่งจะทำให้โฉมหน้าประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้าเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน