ตัดสินจำคุก 24 ปี 24 เดือน พ่อเลี้ยงข่มขืนลูกเลี้ยง
กระบี่ - ศาลจังหวัดกระบี่ ตัดสินจำคุก24ปี24เดือนพ่อเลี้ยงข่มขืนลูกเลี้ยงนาน 5 ปี ตัวแทนมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ เผย พอใจในคำตัดสิน พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายต่อเนื่องเพื่อให้มีที่ยืนในสังคม
กรณีที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขากระบี่และภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่นำเด็กหญิงซันนี (นามสมมุติ)อายุ15ปีชาว ต.คลองประสงค์อ.เมืองจ.กระบี่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองกระบี่เมื่อวันที่2ก.ย.60ว่า
ถูกพ่อเลี้ยง คือนายสมานดำกุลอายุ65ปี กระทำการล่วงละเมิดทางเพศเป็นเวลานาน5ปี เหตุเกิดตั้งแต่ปี2556จนถึงเดือนกันยายนปี2560ต่อมาทางผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน และให้การรับสารภาพเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ผู้ต้องหาได้ประกันตัว เพื่อหาทางต่อสู้คดีในชั้นศาล
(16 พ.ย.61) นายมนตรีขาวขำ ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขากระบี่กล่าวว่าเมื่อวันที่15พ.ย.61ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ ได้นัดฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่โดย จนท.มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ตและสาขาพังงา ในฐานะตัวแทนของผู้เสียหาย
ได้เข้าร่วมรับฟังศาลได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมาน ดำกุล อายุ65ปี จำเลยในข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี
โดยเด็กหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน15ปี ไปเสียจากบิดามารดา เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญาฯศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากการสืบพยานของฝ่ายโจทก์ที่ให้ปากคำทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นสืบพยานมีความสอดคล้องและหนักแน่น ประกอบกับการสารภาพของตัวจำเลย
จึงได้ตัดสินให้จำเลยมีความผิด และ ลงโทษจำคุกทั้งสิ้น48ปี48เดือนแต่เมื่อจำเลยได้สารภาพผิด ศาลเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเป็นจำคุก24ปี24เดือน ซึ่งตลอดการรับฟังการอ่านคำพิพากษาจำเลย มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด
นายมนตรีกล่าวว่า ในฐานะตัวแทนผู้เสียหาย ก็รู้สึกพึงพอใจกับคำตัดสินของศาล ที่ให้ความยุติธรรม และขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้งกระบี่ ภูเก็ตและพังงา ที่ให้คำแนะนำและคอยฟื้นฟูจิตใจของ ด.ญ.คนดังกล่าว
ตลอดพี่น้องประชาชนที่บริจาคผ่านมูลนิธิฯในการดำเนินการทางคดีและให้การช่วยเหลือตลอด1ปีที่ผ่านมา นอกเหนือการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ผู้เสียหายแล้ว ทางมูลนิธิฯก็ได้ดูแลเยียวยา ในส่วนอื่นๆ ทั้งเรื่องของการศึกษา สิทธิด้านต่าง เพื่อให้ผู้เสียหายมีที่ยืนในสังคมต่อไป