อสังหาฯ หวั่นมาตรการคุมสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 ฉุดธุรกิจวูบ 5%

รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ วิชัย วิรัตกพันธ์ เปิดเผยครั้งแรกว่าแนวคิดควบคุมการปล่อยสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 ของธนาคารแห่งประเทศไทย จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังฟื้นตัว ถดถอยลงไปถึง 5% โดยประเมินว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 จะขยายตัวโตกว่าปีนี้ 0.5 % ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ออกมาตรการคุมสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 ออกมา

แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศจะมองเห็น แนวโน้มของการปล่อยสินบ้านให้กับผู้ซื้อบ้านเพื่อกินส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้น และมีธนาคารบางแห่งให้กู้เกินหลักประกันแก่ลูกค้า และนำไปสู่หนี้เสีย แต่ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มองว่าสาเหตุของการซื้อบ้านหลังที่ 2 ส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่ขยายมากขึ้น ไม่ใช่ซื้อเพื่อการเกร็งกำไรศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุอีกว่าตลาดบ้านมือสองมีสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับบ้านใหม่ ส่วนตลาดคอนโดมือสอง ก็ขยับตัว 20-30% สะท้อนว่า บ้านใหม่หรือคอนโดจำนวนมากที่ถูกโอนกรรมสิทธิ์ออกไปแล้ว อีกไม่นานจะกลายเป็นสต๊อก บ้านมือสอง กำลังเข้ามาแข่งขันกับตลาดบ้านสร้างใหม่

ขณะที่ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อธิป พีชานนท์ มองว่าอนาคตคอนโดอาจจะมีขนาดพื้นที่ต่ำกว่า 20 ตร.ม. เพราะต้องเป็นราคาที่ผู้ซื้อจับต้องได้ เนื่องจากต้นทุนขึ้นหมด ทั้งราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นฟังชั่นบางอย่างต้องดีไซน์ใหม่ ไม่ฟุ่มเฟือย และออกแบบให้คุ้มค่า ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายส่วนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ควอลิตี้เฮาส์ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ เขาบอกว่าระบบคมนาคม คือหัวใจสำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทุกวันนี้ เขาเชื่อว่าแม้รัฐบาลจะมีนโยบายกระจายความเจริญไปในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ต่อให้อีก 10 ปี ทุกอย่างก็ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร เพราะปัจจัยสำคัญในการขยายเมืองคือ งาน โดยมองว่าการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ยังต้องระมัดระวัง เพราะยังไม่เห็นกำลังซื้อ