svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

คนขับปิกอัพคู่กรณีอ.มหิดล ให้การขัดแย้ง ที่เกิดเหตุ

19 ตุลาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันนี้ครอบครัว ดร.รัฏฐกานต์ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางด่วน ได้นำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่เชียงใหม่ ส่วนความคืบหน้าของคดีนี้ ตำรวจคาดว่าจะใช้เวลาสรุปสาเหตุก่อนจะเเจ้งข้อกล่าวหา

ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้นของคู่กรณีของอาจารย์มหาวิทยาลัย มหิดล ที่เสียชีวิต จากอุบัติเหตุบนทางด่วน เพราะขัดเเย้งกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ ขณะที่คู่กรณีกระบะยังเข้าเฝือกคอ ทำกายภาพ ให้การอย่างละเอียดไม่ได้
พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม สว.( สอบสวน ) งานสายตรวจ 3 กองบังคับการตำรวจจรารเปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการสอบปากคำ นาย ศักดา อายุประมาณ 45 ปี คู่กรณี ดร.รัฏฐกานต์ โกมลรัตน์ อายุ40 ปี อาจารย์กลุ่มสาขาวิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รถเก๋งส่วนตัว ชน รถกระบะบรรทุก บนทางด่วนคู่ขนาน บรมราชชนนี จนไฟลุกไหม้ และเสียชีวิตภายหลัง

พ.ต.ท.ณัฐนันท์ บอกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐาน เรียกสอบปากคำ

นายศักดา คู่กรณี ที่ขับรถปิกอัพ มาสอบปากคำ ซึ่งโทรติดต่อไปแล้วแต่ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล โดยจะเรียกมาสอบปากคำหลังออกจาก รพ. รวมถึงสอบพยานแวดล้อมส่วนกล้องCCTVของกทม.และสน.บางพลัด ที่ตำรวจตรวจพบเพิ่ม ก็ยังไม่เห็นเหตุการณ์ช่วงเกิดอุบัติเหตุ ส่วนกล้องหน้ารถของเก๋งถูกไฟไหม้หมดจึงไม่มีหลักฐาน และยังอยู่ระหว่างการคำนวณความเร็วของรถยนต์ของอาจารย์ที่ขับมา

ส่วนคำให้การของนายศักดา เบื้องต้น ที่ว่าขณะขับรถอยู่ช่องทางขวา ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ รถเก๋งอาจารย์ ขับมาชนท้ายอย่างแรง ก่อนเกิดเหตุไฟลุกไหม้ ตำรวจบอกว่ายังไม่ปักใจเชื่อ เพราะขัดเเย้งกับ หลักฐานที่มีอยู่บางส่วน ที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกันทางครอบครัว ดร.รัฏฐกานต์ ไม่ได้เร่งรัดตำรวจ ให้เร่งหาสาเหตุ ของอุบัติเหตุ และแจ้งข้อกล่าวหากลับใคร มีแต่เพื่อนๆร่วมงาน ที่มหาวิทยาลัย เร่งให้สรุปหาสาเหตุโดยเร็ว สำหรับการสรุปคดีคาดว่าจะใช้เวลาอีกนาน เพราะต้องรอผลรายงานชันสูตรอย่างละเอียด จากนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช นานเป็นเดือน แม้โรงพยาบาลเจ้าพระยา จะระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเสียเลือดมาก และ อวัยวะภายบอบซ้ำหนัก แต่ต้องยึดจากนิติเวชเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่ช่วงเกิดเหตุ นายศักดา คู่กรณีไม่ช่วยอาจารย์ที่อยู่ในรถนั้น เพราะอาจได้รับบาดเจ็บด้วยเหมือนกัน ส่วนจะเข้าข่าย มาตรา 374 ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่นมแต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ กรณีนี้ต้องดูที่เจตตาของคู่กรณีกีอน ถึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นหากพบว่าประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็จะถูกแต้งข้อกล่าวหา

ทีมข่าวเนชั่นทีวีเดินทางมาที่โรงพยาบาล ย่านบางกอกน้อย นาย ศักดา อายุกว่า40ปี คู่กรณีที่ขับรถกะบะ ถูกชนท้าย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เย็บศรีษะที่หน้าผาหซ้าย 11 เข็ม ใส่เฝือกอ่อนที่คอ สื่อสารได้ไม่สะดวก หมอยังต้องทำกายภาพ จาการสอบถามภรรยานายศักดา ระบุว่า ตำรวจยังไม่ได้เรียกไปสอบปากคำ และ นายศักดายังเล่ารายละเอียดตอนเกิดเหตุไม่ได้

logoline