ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่สน.ประเวศ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายพีรวิชญ์ ปุตตะจินารักษ์ อายุ 24 ปี นายเฉลิมเกียรติ หุ่นน้อย อายุ 22 ปี นายทรงเดช ปุตตะจินรักษ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย โดยคนร้ายได้ขโมยเอาทรัพย์สินเป็นนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อคาสิโอ สีดำ รุ่นจีช็อค จำนวน 1 เรือน ราคา 3,500 บาท กุญแจบ้าน 1 พวง จำนวน 3 ดอก เหตุเกิดที่หน้าร้านถ่ายภาพสปายดิจิตอล ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 เวลา 02.50 น.
ต่อมาได้มาลงรถที่บริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วยนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อคาสิโอ สีดำ รุ่นจีช็อค จำนวน 1 เรือน ราคา 3,500 บาท กุญแจบ้าน 1 พวง จำนวน 3 ดอก เงินสด จำนวน 3,700 บาท บัตรประชาชน ใบขับขี่ แว่นสายตา จำนวน 1 อัน ราคา 16,000 บาท โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง S7 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง ราคา 12,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 20,000 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทำร้ายนายนรพรจริง และได้เอาทรัพย์สินเป็นนาฬิกาและพวงกุญแจ ไปจากผู้เสียหาย โดยหลังจากผู้ต้องหาทั้งสามคนเดินกลับมาจากดื่มสุราได้เดินผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุ และพบผู้เสียหายนอนอยู่ โดยพบว่าหน้าตาคล้ายคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ซึ่งนายทรงเดช เคยถูกคู่อริแทงเข้าที่บริเวณหน้าอก เมื่อเห็นว่าหน้าคล้ายคู่อริ ที่เคยทำร้ายจึงได้ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายและขโมยทรัพย์สินดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหาพบว่า นายพีรวิชญ์ มีประวัติก่อคดีประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ , ชิงทรัพย์ ทั้งหมด 7 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน เมื่อปี 2558 โดย 2 คดีศาลได้ตัดสินไปแล้ว ส่วนอีก 5 คดีอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายสาหัส จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายพีรวิชญ์ นายเฉลิมเกียรติ และนายทรงเดช ไปชี้จุดเพื่อประกอบคำรับสารภาพบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ