svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุทำร้ายวิศวกรยานยนต์

18 ตุลาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายหนุ่มวิศวกรยานยนต์ ช่วงเวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าเมาแถมคู่กรณีใบหน้าคล้ายอริ จึงลงมือทำร้ายพร้อมชิงทรัพย์

จากกรณี นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี วิศวกรยานยนต์ บริษัทฯรถยนต์ชื่อดัง ซึ่งระบุว่า ช่วงเวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เรียกรถแท็กซี่ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน จากบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย พร้อมกับมีอาการเมาสุรา ต่อมาได้ถูกทิ้งไว้ที่ข้างถนนศรีนครินทร์ ในสภาพเลือดโชกเต็มตัว และทรัพย์สินหายได้สูญหายไปทั้งหมด ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือซัมซุง แว่นสายตา และเงินสดอีก 3,500 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายประมาณ 1 แสนบาทเศษ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

  
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่สน.ประเวศ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายพีรวิชญ์ ปุตตะจินารักษ์ อายุ 24 ปี นายเฉลิมเกียรติ หุ่นน้อย อายุ 22 ปี นายทรงเดช ปุตตะจินรักษ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย โดยคนร้ายได้ขโมยเอาทรัพย์สินเป็นนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อคาสิโอ สีดำ รุ่นจีช็อค จำนวน 1 เรือน ราคา 3,500 บาท กุญแจบ้าน 1 พวง จำนวน 3 ดอก เหตุเกิดที่หน้าร้านถ่ายภาพสปายดิจิตอล ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 เวลา 02.50 น.
 

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุทำร้ายวิศวกรยานยนต์

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ต.ค. เวลาประมาณ 14.20 น. นางพัชราภรณ์ พรหมบุตร อายุ 63 ปี มารดาของนายนรพร ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน พร้อมกับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เวลาประมาณ 02.50 น. นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี บุตรชายได้ไปดื่มเหล้าที่ร้านคัสเซ็ส ซอยเอกมัย 10 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อดื่มเสร็จได้มาขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู ไม่ทราบยี่ห้อและหมายทะเบียน จากบริเวณหน้าเฮลแลนด์ ซอยเอกมัย 10 เมื่อขึ้นแท็กซี่ได้ก็หลับไป ก่อนจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่า ถูกทำร้ายร่างกายในรถแท็กซี่ แต่ไม่ทราบจุดเกิดเหตุว่าโดนทำร้ายบริเวณใด

ต่อมาได้มาลงรถที่บริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วยนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อคาสิโอ สีดำ รุ่นจีช็อค จำนวน 1 เรือน ราคา 3,500 บาท กุญแจบ้าน 1 พวง จำนวน 3 ดอก เงินสด จำนวน 3,700 บาท บัตรประชาชน ใบขับขี่ แว่นสายตา จำนวน 1 อัน ราคา 16,000 บาท โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง S7 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง ราคา 12,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ราคา 20,000 บาท

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุทำร้ายวิศวกรยานยนต์

จากนั้นทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายนรพร ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ได้นั่งมึนเมาอยู่บริเวณริมทางเท้าหน้าร้านถ่ายภาพสปายดิจิตอล ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 3 คน ได้มารุมทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนต่อ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเอาไว้ได้


จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทำร้ายนายนรพรจริง และได้เอาทรัพย์สินเป็นนาฬิกาและพวงกุญแจ ไปจากผู้เสียหาย โดยหลังจากผู้ต้องหาทั้งสามคนเดินกลับมาจากดื่มสุราได้เดินผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุ และพบผู้เสียหายนอนอยู่ โดยพบว่าหน้าตาคล้ายคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ซึ่งนายทรงเดช เคยถูกคู่อริแทงเข้าที่บริเวณหน้าอก เมื่อเห็นว่าหน้าคล้ายคู่อริ ที่เคยทำร้ายจึงได้ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายและขโมยทรัพย์สินดังกล่าว

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุทำร้ายวิศวกรยานยนต์


จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหาพบว่า นายพีรวิชญ์ มีประวัติก่อคดีประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ , ชิงทรัพย์ ทั้งหมด 7 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน เมื่อปี 2558 โดย 2 คดีศาลได้ตัดสินไปแล้ว ส่วนอีก 5 คดีอยู่ระหว่างการดำเนินคดี


เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายสาหัส จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายพีรวิชญ์ นายเฉลิมเกียรติ และนายทรงเดช ไปชี้จุดเพื่อประกอบคำรับสารภาพบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ

ตำรวจประเวศ รวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมก่อเหตุทำร้ายวิศวกรยานยนต์

logoline