จีนกวาดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงไหลเข้าสูงสุดจากทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกปีนี้ถึง 70,000 ล้านดอลลาร์
จีนกวาดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงไหลเข้าสูงสุดจากทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกปีนี้ถึง 70,000 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าอังกฤษและสหรัฐ จากภาพรวมของ FDI ที่มีมูลค่าทั้งหมด 470,000 ล้านดอลลาร์ เป็นการปรับตัวลดลง 41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่ารวมจำนวน 794,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-ซาอุดิอาระเบียมีมากขึ้น โดยทรัมป์ออกมาเผยกรณีจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดิอาระเบียที่หายตัวไปอย่างลึกลับอาจเป็นฝีมือของนักฆ่านิรนาม
ซีอีโอสหรัฐหลายคนยกเลิกเข้าร่วมการประชุม Future Investment Initiative (FII) Summit หรือ Davos in the Desert ถือเป็นการประชุมครั้งสำตัญ กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 23-25 ตุลาคม ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบีย
1. ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยรายงานล่าสุด ระบุจีนเป็นประเทศที่สามารถกวาดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทำสถิติสูงสุดของโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2018 เป็นมูลค่ามากกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์
ส่วนรองลงมาเป็นอังกฤษ ซึ่งมียอด FDI มูลค่า 66,000 ล้านดอลลาร์ และตามด้วยสหรัฐที่มียอด FDI มูลค่า 46,000 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่ภาพรวมของ FDI ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่าทั้งหมด 470,000 ล้านดอลลาร์ เป็นการปรับตัวลดลง 41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่ารวมจำนวน 794,000 ล้านดอลลาร์ มาจากสาเหตุที่บริษัทต่างๆ ของสหรัฐต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทในเครือที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปภาษี
2. ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-ซาอุดิอาระเบียมีมากขึ้น โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยถึงกรณีขามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดิอาระเบียที่หายตัวไปอย่างลึกลับอาจเป็นฝีมือของนักฆ่านิรนาม หรือ Rogue Killer
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลุงจากที่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด แห่งซาอุดีอาระเบีย โดยพระองค์ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของจามาล คาช็อกกี
3, แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งการให้มีการสอบสวนกรณีการหายตัวไปของจามาล คาช็อกกี นักข่าววอชิงตันโพสต์ ทันทีและเปิดกว้าง หลังจากที่ผู้นำสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตนจะใช้มาตรการลงโทษซาอุดิอาระเบียอย่างหนัก หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของจามาล คาช็อกกี
จามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดิอาระเบียได้หายตัวอย่างลึกลับหลังเข้าไปติดต่อขอรับเอกสารเพื่อเตรียมแต่งงานกับคู่หมั้นชาวตุรกี ที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียในกรุงอิสตันบูลของตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมต แต่ไม่เคยมีใครเห็นเขาออกมาจากสถานกงสุลอีกเลย ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียอยู่เบื้องหลังการหายตัวอย่างลึกลับของจามาล คาช็อคกี
สำหรับจามาล คาช็อกกี ปะจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ของวอชิงตัน โพสต์ ได้ลี้ภัยไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม จากการที่มักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการบริหารของเจ้าชายมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
4. ท่ามกลางปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐกับซาอุดิอาระเบีย ท่าทีของสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยังคงกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการประชุม Future Investment Initiative ที่กรุงริยาด ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้ ซีอีโอของ JPMorgan Chase, ซีอี โอของ Black Rock รวมทั้งผู้บริหารกองทุนของ Black Stone ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวแล้ว
5. นอกตากนี้ ผู้บริหารของ Google เป็นรายล่าสุดได้ขอยกเลิกร่วมการประชุมเศรษฐกิจและการเงินการลงทุนที่กรุงริยาด เนื่องจากเกิดกรณีนักข่าวซาอุดิอาระเบียได้หายตัวไปอย่างลึกลับในอิสตันบูล
โดย Google Inc ออกมาเปิดเผยว่า ไดแอน กรีน ผู้บริหารของ Google จะไม่เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจ การเงินและอานาคตของการลงทุน ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ การประชุม Future Investment Initiative (FII) Summit หรือ Davos in the Desert ถือเป็นการประชุมครั้งสำตัญ กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 23-25 ตุลาคม ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบีย