ส่วนกรณีความล่าช้าของการจัดซื้อยา ทำให้ผู้ประกันตนต้องเข้ามารับยาบ่อยขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2561 เนื่องจากสำนักงานประกันสังคมต้องดำเนินการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งมีกระบวนการจัดซื้อที่ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้เร่งดำเนินการจัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีเพิ่ม เพื่อชดเชยที่ขาดในคลังยาของสถานพยาบาลและให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการใช้ยาของผู้ประกันตน โดยปรับแผนการจัดซื้อจากเดิม 3 เดือน เป็น 6 เดือนและจะพิจารณาปรับแผนการจัดซื้อให้เป็นแผนรายปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ สำหรับกรณีสถานพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ ที่ปรากฏในข่าวไม่มียาให้แก่ผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคมได้เร่งประสานกับสถานพยาบาล แต่ละแห่งเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกันตนแล้ว
"สปส.มุ่งมั่นในระบบจัดการบริหารงานด้านการแพทย์ให้ผู้ประกันตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมและจัดหายาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเพียงพอต่อความต้องการจนสิ้นสุดการรักษา โดยไม่จำกัดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายและจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา โดยสถานพยาบาลจะไม่เก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตน ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคมที่พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับ ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพื่อให้ได้รับบริการที่ดี และได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ" รักษาการเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวทิ้งท้าย