svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ และ ความงาม

เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

14 ตุลาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ในช่วงนี้เรามักได้ยินข่าวการเสียชีวิตกะทันหันด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันท่วงที อย่างคนมีชื่อเสียง 2 รายอย่าง "เฮียนอส" พิธีกรกีฬาชื่อดัง และ "โจ บอยสเก๊าท์" ที่เสียชีวิตชนิดที่ว่าหลายๆคนคาดไม่ถึง รวมทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561ที่ ผ่านมา "ป๋าเต็ด" ยุทธนา บุญอ้อม ก็เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันเช่นกัน แต่ถูกนำส่ง รพ. ได้อย่างทันเวลา

แต่กระนั้นแม้ผู้ป่วยบางรายถึงมือแพทย์แล้วแต่ก็ต้องพบเห็นผู้ที่เสียชีวิตไปต่อตาขณะที่รอความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย...ก็มี

เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

คนทั่วไปอาจรู้จักแค่การทำ Cardiopulmonary Resuscitation (CPR) คือการปฐมพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นให้กลับมาหายใจ และมีการไหลเวียนออกซิเจนรวมทั้งเลือดกลับคืนสู่สภาพเดิม โดยวิธีนี้จะเป็นการกดหน้าอกอย่างถูกต้องและทันท่วงที อย่างไรก็ตามยังมีเครื่องมือ Automated External Defibrillator (AED) คือเครื่องวินิจฉัยการเต้นของหัวใจ สามารถกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า อุปกรณ์นี้สามารถตรวจวัดค่าทางไฟฟ้าของหัวใจและหากตรวจพบว่าผู้ป่วยนั้นมีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติเครื่องก็จะมีเสียงแนะนำ ให้ผู้ใช้งานกดปุ่ม Shock เพื่อตัวกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า การใช้งาน AED ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการแพทย์ แต่จะต้องทำตามขั้นตอนที่ออกแบบมาให้สั้น รัดกุม โดยวางแผ่นโลหะ (Electrode pads) ไว้ที่ตำแหน่งทแยงกลางหน้าอกตามภาพล่างนี้ เพื่อการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้ากระตุกในทิศทางที่ถูกต้อง

เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน


ปัจจุบันจากข้อมูลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติพบว่า ในปี 2559 มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นถึง 495 คน ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หมายถึงภาวะที่หัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างทันที สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมีโรคหัวใจอยู่เดิมโดยที่เจ้าตัวอาจไม่ทราบ หรือไม่เคยตรวจมาก่อน และถ้าในกรณีที่ผู้ป่วยเสียชีวิตภายในหนึ่งชั่วโมงหลังมีอาการ เราจะเรียกภาวะนี้ว่า "sudden cardiac arrest" ซึ่งภาวะนี้เกิดกับใครก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรคหัวใจหรือมีโรคประจำตัวอื่นใดมาก่อน (ข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ) เราควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับปัญหาเจ็บป่วยที่ยากจะคาดเดานี้ให้ได้

เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน


น.ส.กัญญ์จรีย์ พระสิงห์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) กล่าวว่า "ในต่างประเทศนั้น การรับมือกับผู้ป่วยภาวะหัวใจวายหรือหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาลจะรอแต่เจ้าหน้าที่กู้ชีพอย่างเดียวไม่ได้ จากสถิติของประเทศญี่ปุ่นหรือสหรัฐอเมริกานั้นพบว่า หากประชาชนใช้เครื่อง AED ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยสลับกับการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR ก่อนที่ทีมแพทย์จะเดินทางเข้าให้ความช่วยเหลือ จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้แก่ประชาชนในประเทศของเขาได้ และสามารถช่วยผู้ป่วยให้รอดได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากเดิมถ้าเราเริ่มต้นช่วยผู้ป่วยแล้วรอเจ้าหน้าที่กู้ชีพมารับเพียงอย่างเดียวผู้ป่วยจะมีโอกาสรอดชีวิตเพียงแค่ 27 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าใช้เครื่อง AED มาช่วยด้วยโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยก็จะมากขึ้นไปด้วย"

บทความจากคอลัมน์ ลุงแจ่มดูแลสุขภาพ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันที่  22 พ.ย.60

logoline