ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดร่วงลง 2.1% มาอยู่ที่ 2,728.37 จุด นับเป็นการปิดแดนลบวันที่ 6 ติดต่อกัน ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดลดลง 1.3% มาอยู่ที่ 7,329.06 จุด
ภาวะร่วงต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐเกิดจากบรรดานักลงทุนทั่วโลกแห่ขายหุ้นที่มีความเสี่ยงมากกว่า และหันไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางกระแสกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ระหว่างการซื้อขายในวันพฤหัสบดี ดาวโจนส์ดิ่งหนักถึง 698.97 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบวัน ก่อนฟื้นตัวขึ้นหลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะพบกันในการประชุมสุดยอด "จี20" ในเดือนหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนมีหวังว่าสงครามการค้าอาจบรรเทาลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง 3.13% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ก็ลดลง 2.84%
เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563