svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ทักษิณ-เพื่อไทย" แกล้งตาย รอวันฟื้น

21 กันยายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อุณหภูมิการเมืองเริ่มร้อนแรง สวนทางกับสภาพอากาศที่ช่วงนี้พายุ "มังคุด" แผ่อิทธิพลทำให้หลายพื้นที่ฝนตกอย่างหนัก ยิ่งใกล้เดือนตุลาคมปีนี้ซึ่งเป็นเดือนที่ขึ้นชื่อว่า อุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงแน่นอน ไม่แพ้เดือนพฤษาคม หลังจากที่มีคำสั่ง คสช.ให้คลายล็อกพรรคการเมือง ขยักที่ 2 ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ขยับตัวได้ สามารถเริ่มประชุม ดำเนินการเรื่องกรรมการบริหารพรรคได้ ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ เตรียมเรียกประชุมใหญ่กันในต้นเดือนตุลาคม


พรรคที่เป็นที่จับจ้องคงหนีไม่พ้นพรรคแชมป์เก่าเจ้าเดิมอย่างพรรคเพื่อไทย ที่หลังจากนิ่งมานานเกือบ 5 ปี หลังจาก คสช.ยึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 อาจเพราะด้วยเหตุผล การถูกบล็อกเรียงตัวของบรรดาแกนนำอดีต ส.ส. อดีตสมาชิกพรรค หัวคะแนน จนไปถึงแกนนำมวลชนอย่างคนเสื้อแดง "หัวไม่ส่าย หางไม่ขยับ" คำคำนี้ คงสามารถเปรียบเทียบได้ดี ในสถานการณ์ของแชมป์เก่า (แม้อาจมีบางรายที่ห้าวหาญท้าอำนาจบ้าง)



แต่เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา นายใหญ่แห่งมหานครดูไบ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง 12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 - 19 กันยายน 2561 หลังจากที่หายไปจากการพูดเรื่องการเมืองมาพักหนึ่ง แต่ผ่านไป 1 วัน ประเด็นนี้ได้ถูกนำขยายและสอบถามพี่ใหญ่แห่ง คสช. ซึ่ง "บิ๊กป้อม" สวนกลับแบบไม่ต้องคิดเลยว่า "ก่อนจะปรองดองให้เคลียร์คดีก่อนและใครกันแน่เป็นคนที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย"

ไม่ทันไร "ทักษิณ ชินวัตร" ทวิตข้อความว่า "ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย" เรียกว่า เล่นปล่อยหมัดตรงใส่บิ๊กป้อมแบบเต็มคาง จนกระแสแฮชแท็ก "เกาะโต๊ะ" ติดอันดับต้นๆ ของโลกออนไลน์ และ "วรรคทอง" ของนายใหญ่นำไปแปลงเป็นคำล้อเลียนในหลากรูปแบบเลยทีเดียว



จากนั้นก็มีภาพของนายใหญ่ในช่วงทำธุรกิจและเข้าถึงตัวแม่ทัพนายกองบางคนที่อำลาโลกไปแล้ว เพื่อขอ "ความอนุเคราะห์" ในการดำเนินกิจการ...



และก่อนหน้าไม่นานนัก "อดีตนายกฯ ปู" ก็ยังถามนายกฯ ตู่ ในช่วงไป จ.ระนอง ซึ่งวันนั้นนายกฯ ตู่พูดคุยกับหญิงสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์

วันนั้นน้องปูถามพี่ตู่ว่า "ยังจำชื่อนี้ได้หรือคะ"

เรียกได้ว่าสองเคสนี้สวนกันหมัดต่อหมัดแบบไม่ยั้งมือ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ไม่เกิดมานานมาก เพราะที่ผ่านมา "ทักษิณและน้องปู" เก็บตัวเงียบ แต่ครั้งนี้เสมือนเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ทักษิณ ก็ได้ออกมาพูดเรื่องการดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทย เมื่อ 1-2 เดือนก่อน เสมือนเป็นการปรามฝ่ายตรงข้ามว่า "ข้ารู้ว่าเอ็งทำอะไร"



ต้องไม่ลืมว่าทักษิณเป็นคนทำอะไรหรือพูดอะไร จะคิดมาก่อนล่วงหน้าแล้วเป็นอย่างดี ยิ่งจะใกล้เข้าโหมดเลือกตั้งแล้ว ยิ่งต้องจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ คสช.และรัฐบาล ต้องจับตาดูให้ดีๆ เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนมาแล้ว วันนี้ คสช.อาจจะคิดว่าตัวเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถควบคุมจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว ตั้งแต่เรื่องการออกกฎหมายให้ล็อกหรืออุดช่องโหว่ทุกอย่าง รวมทั้งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผลักดันงบประมาณในทุกองคาพยพ จน คสช.มั่นใจว่าจะนำไปสู่การชนะเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น


แต่น่าคิดตรงที่...โพลล์ต่างๆ ที่ คสช.สั่งการทางลับให้ไปสำรวจเป็นระยะ (โพลล์สันติบาล โพลล์กอ.รมน. โพลล์มหาดไทย) ต่างรายงานผลตรงกันว่า คสช.ชนะแน่ๆ หรือแม้กระทั่งโครงการต่างๆ ที่ออกมา โดยเฉพาะบัตรคนจน ที่คสช.มั่นใจว่าจะซื้อใจประชาชนได้ และเชื่อมั่นทีมที่ปรึกษาในขณะนี้ว่า บางพรรคที่ คสช.หนุนนั้นชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน



แต่เมื่อไปสำรวจโพลล์ชุดเดียวกันจากอดีต ส.ส. ที่ยังยืนหยัดอยู่กับนายใหญ่กลับพบว่า "สวนทางกันหมด" เพราะเพื่อไทยยังยึดตำแหน่งจ่าฝูง...



ต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา มีบทเรียนให้เห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี 2551 โดยเฉพาะปี 2554 ช่วงนั้นทุกอย่างมีความคล้ายกับในขณะนี้ (หากเปรียบเทียบกัน สมัยนั้นอาจเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่มั่นใจว่า ล้มพรรคเพื่อไทยได้แน่นอน เพราะตอนนั้น "คุณครูใหญ่ ณ บุรีรัมย์" สามารถดูดอดีต ส.ส.ไปจากเพื่อไทยจำนวนไม่น้อย และมีอำนาจคุมหลายกระทรวงยักษ์ (มหาดไทย คมนาคม พาณิชย์) และยังมีปัจจัยในการทุ่มลงพื้นที่แต่ละพื้นที่มากมายมหาศาล)



แต่พอพรรคเพื่อไทย เปิดตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำทัพ และใช้เวลาหาเสียง 49 วัน พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย พรรคภูมิใจไทยแพ้ราบคาบ แพ้ถึงขนาดบุรีรัมย์เมืองหลวงภูมิใจไทยยังแพ้ เพราะถูกเจาะได้...ด้วยคำว่า "เนรคุณ" เพราะช่วงนั้นในหลายพื้นที่ภาคอีสาน วาทกรรมนี้ได้มีการปล่อยออกมา (เช่น แจกใบปลิวและการปราศรัยเน้นย้ำในเรื่องนี้ เรียกได้ว่า สร้างกระแสตีกลับอย่างมากมาย ประกอบกับกระแสคนเสื้อแดงในขณะนั้นที่ทำให้ "เพื่อไทย" คะแนนฟูฟ่อง)



หากเปรียบเทียบ คสช.ในขณะนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างเหมือนเป็นไปได้ด้วยดี ควบคุมได้ทั้งหมด ควบคุมได้มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนเยอะ จนบางฝ่ายมองว่า "เลือกอย่างไรก็ชนะ" แต่ต้องไม่ลืมว่า เกือบ 5 ปีที่ผ่านมา ทักษิณและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขยับอะไรเลย ตั้งรับเพียงอย่างเดียว จะมีก็เพียงแค่แถลงการณ์ของพรรคไม่กี่ฉบับ เรียกร้องไปตามหน้าเสื่อเท่านั้น



เมื่อเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งเต็มตัว ทุกพรรคสามารถเดินสายหาเสียง (ท่อน้ำเลี้ยงเปิด) และมีแคมเปญหรือคำพูดที่วิจารณ์การทำงานของคสช.ได้ (อย่าลืมว่า ยามนี้ใครบางคนใน คสช.แผลเต็มหลัง เพียงแต่เอาเสื้อคลุมหลอกตัวเองไว้เท่านั้น)



ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ประชาชนในตอนนี้รู้สึกกับการบริหารงานรัฐบาลของคสช.อย่างไร "กินดีอยู่ดีจริงหรือไม่" ฉะนั้นสิ่งที่ คสช.ไม่คาดคิด อาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้ ขอแนะนำฝ่ายเสธ.และทีมยุทธศาสตร์ของคสช.น่าจะนำบทเรียนและตัวอย่างในอดีตมาวิเคราะห์ให้ดี เพราะประวัติศาสตร์ "ไม่ได้มีไว้เพียงศึกษา แต่ต้องเรียนรู้มันด้วย"


เพราะ "วันนี้พรรคเพื่อไทยอาจจะเพียงแค่แกล้งตาย และรอวันฟื้นเท่านั้นเอง"

logoline