เงินหยวนแข็งค่าแตะระดับ 6.8530 ต่อดอลลาร์ในวันนี้ โดยหลี่ เค่อเฉียง ยืนยันว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวนเพื่อช่วยการส่งออก เพราะการลดค่าเงินอ้อนลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจะเป็นผลร้ายต่อเศรษฐกิจจีนมากกว่าผลดี
1. หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เรียกร้องให้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทการค้าที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เพื่อให้มีการพัฒนาร่วมกันซึ่งจะนำไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ โดยเป็นการกล่าวต่อเคล้าส์ ชวาบ ผู้ก่อตั้ง World Economic Forum (WEF) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเทียนจินของจีนในช่วงสัปดาห์นี้
2. ทางด้านแจ็ค หม่า ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Alibaba บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน กล่าวว่า Alibaba ตัดสินใจยกเลิกแผนการสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐแล้ว ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ท่ามกลางบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
แจ็ค หม่า ได้ให้สัญญาว่าจะสร้างงานจำนวน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐ ขณะที่ได้เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนมกราคมในปีที่แล้ว ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยระบุว่า คำสัญญานี้อยู่บนพื้นฐานของการเป็นหุ้นส่วนที่มีมิตรภาพกัน และบนความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีเหตุผล
3. แต่เมื่อพื้นฐานการเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวไม่ปรากฎอีกต่อไปในวันนี้ จึงไม่อาจทำตามคำสัญญาได้ อย่างไรก็ตาม Alibaba จะไม่หยุดยั้ง ทั้งนี้ แจ็ค หม่า ได้กล่าวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ จะยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก 20 ปี และจะสร้างความเสียหายต่อทุกฝ่ายในวงกว้าง
หลังจากที่การทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 กันยายน จากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019
ขณะที่รัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 กะนยายนเช่นเดียวกัน
4. เวนดี้ คัตเล รองประธานสถาบันเอเชียโซไซตี้ และอดีตผู้แทนเจรจาด้านการค้าของสหรัฐ ได้เข้าร่วมการประชุม WEF ที่เมืองเทียนจิน กล่าวว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังทวีความรุนแรง และอาจไม่สามารถยุติได้ในเวลาอันใกล้
โดยที่ขณะนี้ สถานการณ์ด้านการค้ากำลังเข้าสู่โลกของภาษี และอาจได้เห็นการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อไป แต่ในที่สุดจะมีการเจรจาเกิดขึ้น เพราะสงครามการค้ายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ก็ยิ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้กับทั้งสองฝ่ายมากเท่านั้น
พร้อมกับระบุว่า ถึงแม้ความวิตกกังวลกับมาตรการการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีนจะเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และยังมีความกังวลในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐในครั้งนี้ เพราะนอกจากจะทำให้จีนและทั่วโลกหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้ แต่ขณะเดียวกันก็กำลังทำร้ายแรงงานและผู้บริโภคชาวอเมริกัน
5. China Foreign Exchange Trading System (CFETS) กำหนดอัตรากลางเงินหยวนวันนี้ แข็งค่าขึ้น 0.39% แตะระดับ 6.8530 ต่อดอลลาร์ จากที่ร่วงลงไปที่ 6.89 ต่อดอลลาร์ช่วงต้นสัปดาห์นี้
หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ยืนยันว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวน เพื่อช่วยการส่งออกของประเทศ โดยที่เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างประขุม WEF ชี้ว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่เกิดขึ้นนั้นถูกมองว่า เป็นมาตรการที่จีนจงใจ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น การลดค่าเงินลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจะเป็นผลร้ายต่อเศรษฐกิจจีนมากกว่าผลดี
ทั้งนี้ จีนจะยึดมั่นในการปฏิรูปกลไกกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนโดยอิงตลาด รวมทั้งการสร้างสิ่งแวดล้อมให้กับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ โดยที่การเคลื่อนไหวของเงินหยวนนั้นได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางในแต่ละวัน