องค์กรไม่แสวงกำไร "เวิลด์ อิโคโนมิคส์ ฟอรัม" หรือ WEF ที่มีสำนักงานอยู่ที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ ออกรายงานล่าสุดชื่อ "ฟิวเจอร์ ออฟ จ็อบส์ 2018" เตือนว่า ภายในปี 2568 เทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือ หุ่นยนต์ กับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเข้าไปทำงานแทนที่มนุษย์เพิ่มขึ้น 52% หรือเกือบ 2 เท่าของสัดส่วนปัจจุบัน คือ 29%ขณะที่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเครื่องจักรและระบบอัลกอริทึม (algorithm)หรือการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ จะทำให้ตำแหน่งงานหายไป 75 อัตรา แต่มีงานใหม่เกิดขึ้น 133 ล้านอัตรา หรือเท่ากับว่าจะมีตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้น 58% ทั่วโลก
ตำแหน่งงานที่หุ่นยนต์จะเข้าไปแทนที่มนุษย์ ได้รวมถึงบัญชี การบริหารจัดการลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ไปรษณีย์และเลขานุการ ไม่เว้นแม้กระทั่งตำแหน่งที่ต้องใช้ความชำนาญของมนุษย์ เช่น ฝ่ายขาย การตลาด ฝ่ายบริการลูกค้า ระบบอีคอมเมิร์ซ และโซเชียล มีเดีย
ซึ่งมนุษย์เองก็จะต้องปรับบทบาทใหม่ ต้องพัฒนาและปรับปรุงความเชี่ยวชาญเพื่อให้เท่าทันกับการโยกย้ายตำแหน่งงาน ตลอดจนวิธีการทำงานร่วมกับเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส่วนรัฐบาลก็ต้องเตรียมเครือข่ายด้านความปลอดภัยให้กับคนทำงาน และกลุ่มคนที่ WEF ระบุว่า ตกอยู่ในภาวะการ "ย้ายครั้งใหญ่" (seismic shift) สำหรับงานใหม่ที่ถาวรและมีคุณภาพ
รายงาน "ฟิวเจอร์ ออฟ จ็อบส 2018" ซึ่งอ้างอิงจากผลสำรวจผู้บริหารที่เป็นตัวแทนของพนักงาน 15 คน ใน 20 ประเทศเศรษฐกิจของโลก ยังระบุด้วยว่า จากนี้จนถึงปี 2565 อุตสาหกรรมการบิน การเดินทาง และท่องเที่ยวยังน่าจะเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องคงแรงงานมนุษย์ไว้อยู่
ขณะที่บริษัททั่วโลก 50% ได้รับการคาดหมายจะว่าตัดลดแรงงานมนุษย์ลงภายในปี 2565 ซึ่งเกินกว่า 38% ของตัวเเลขเดิมที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากรูปแบบของงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจไม่มั่นคงเหมือนกับงานในปัจจุบัน ด้วยเพราะภาคธุรกิจมีแนวโน้มว่าจะหันไปจ้างงานแบบสัญญาจ้างและฟรีแลนซ์มากขึ้น