ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจแจงปรับ 1-5 หมื่น "ไม่มี-ไม่พก-ใบขับขี่" เพียงแค่อัตราปรับสูงสุดเท่านั้น
โดยร่างกฎหมายฉบับแก้ไขได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ร่างอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากผ่าน สนช. แล้ว ตามขั้นตอนต่อไปจะต้องนำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาก่อน จะมีผลบังคับใช้เป็นทางการหลังที่ลงประกาศในราชกิจจาฯครบ 1 ปีไปแล้ว
สำหรับประเด็นที่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับกฎหมายนี้ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ เจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อมในการปฏิบัติ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเที่ยงธรรม เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน โดยเบื้องต้นจะเน้นการประชาสัมพันธ์ก่อน และเพิ่มความระดับเข้มในมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ในส่วนของการเพิ่มโทษ ตามกฎหมายใหม่นี้คาดว่าสามารถเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนและลดอุบัติเหตุในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ เพราะ เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้มาตรการทางปกครองที่บัญญัติในไว้ในกฎหมาย ตามมาตรา 161 พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 เกี่ยวกับการยึด และ การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เมื่อผู้ขับขี่กระทำผิดและถูกบันทึกคะแนนความประพฤติตามกำหนด และสามารถนำมาตรการการยึดใบขับขี่และตัดคะแนนความประพฤติการขับรถมาใช้บังคับอย่างเป็นผล ผู้ขับขี่ที่ถูกสั่งยึด(เพราะทำผิดกฎจราจรอย่างร้ายแรง) หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ (เพราะถูกตัดคะแนนครบตามกำหนด) จะไม่กล้าฝ่าฝืนขับรถในขณะที่ถูกสั่งยึดหรือพักใช้อีก เพราะหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีและถูกฟ้องต่อศาลทันที
รองโฆษก ตร. ฝากประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ว่ากฎหมายจราจรนั้นเป็นกฎหมายที่ใกล้ตัว เป็นกฎหมายที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ผู้โดยสาร และผู้ที่สัญจรไปมา ให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น โดยทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน