ภาพจากรายงานข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นส่วนขนาดใหญ่ของสะพานได้ขาดหายไป ขณะที่สื่ออิตาลี รายงานว่า ส่วนของสะพาน " โมรานดี " ขนาดความยาวประมาณ 200 เมตรได้ถล่มลงมาสู่ทางรถไฟที่อยู่ต่ำลงมาหลายสิบเมตร
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น โดยสะพานในจุดนี้ อยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรมทางตะวันตกของเมืองเจนัว
ด้านนายดานิโล โทนิเนลลี่ รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งและระบบโครงสร้างพื้นฐานอิตาลี บอกว่างานนี้ อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้
ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 22 ราย และผู้บาดเจ็บ 13 ราย และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก หน่วยกู้ภัยพยายามค้นหาผู้เคราะห์ร้ายในซากรถยนต์และรถบรรทุกที่ถูกทับใต้ซากปรักหักพังของสะพาน ซึ่งมีรถราว 20 คันได้รับความเสียหาย
เมืองเจนัว ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาและทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี การที่มีพื้นที่สูงต่ำสลับกัน หมายความว่าถนนสายมอเตอร์เวย์ที่วิ่งผ่านเมือง และพื้นที่โดยรอบ จะมีลักษณะเป็นสะพานและอุโมงค์เป็นสำคัญ
นายกรัฐมนตรีอิตาลี นายจูเซปเป้ คอนเต้ เดินทางมาตรวจจุดที่เกิดเหตุสะพานบนทางหลวงสาย A 10 ถล่มที่เมืองเจนัว พร้อมกับพูดคุยกับทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายร้อยนาย ที่ยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวด้วยเครื่องจักรกลหนัก
สะพานโมรานดี แห่งนี้เป็นสะพานที่เชื่อมต่อทางหลวงจากอิตาลีไปยังฝรั่งเศส และเชื่อมต่อทางหลวงสาย A7 ที่จะไปยังเมืองมิลาน มันเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 2510 และมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มันถล่มลงมาเหนือเขตพื้นที่อุตสาหกรรมของเมือง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันของเมื่อวานว่าอยู่ที่ 22 ราย และบาดเจ็บอีก 16 คนแต่ก็บอกว่ตัวเลขผู้เคราะห์ร้ายอาจจะเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นได้ขณะเกิดเหตุมีรายงานว่ามีลมแรงจัดและฝนตกหนัก ขณะที่ตัวสะพานเองก็อยู่ระ หว่างการซ่อมแซม การที่ส่วนของสะพานยาวประมาณ 80 เมตรถล่มลงมาจากความสูงประมาณ 45 เมตร ทำให้รถยนต์ 30-35 คัน และรถบบรรทุกหนักอีก 3 คันที่อยู่บนสะพานตกลงสู่เบื้องล่างด้วย และมีรายงานว่ามีผู้รอดชีวิตอย่างน้อย 4 คนจากรถยนต์ที่อยู่บนพื้นล่างและถูกสะพานหล่นลงมาทับ โดยสะพานได้หล่นลงมาทับโกดังหลายแห่งด้วย ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความคงทนของสะพานท่เก่าแก่ของอิตาลี
คลิป