"พานทองแท้" ฟอกเงิน?

เรื่องนี้ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) พบว่ามีชื่อคนรับเช็คจากกลุ่มกฤษดามหานคร หลายคน และ 1 ในนั้น คือ "พานทองแท้ ชินวัตร" รับเช็ค 10 ล้านบาท ส่วน 26 ล้านบาท เป็นคนแวดล้อมครอบครัวชินวัตร


"พานทองแท้" เคยถูก คตส. กล่าวหาว่า รับของโจร กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้กฤษดามหานคร แต่สุดท้ายข้อหารับของโจร ขาดอายุความไป


"พานทองแท้" ได้ให้การว่า รับเงินจาก "รัชดา กฤษดาธานนท์" (บุตรชาย วิชัย กฤษดาธานนท์ เจ้าของบริษัทกฤษดามหานคร) จำนวน 10 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นเงินลงทุนเพื่อร่วมธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู ต่อมาได้ยกเลิกคืนเงินกันไป ส่วนเหตุผลที่ต้องโอนเงินเปลี่ยนบัญชีถึง 3 ครั้ง ก็เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงิน


จากคำให้การนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ มองว่า เงินเพียง 10 ล้านบาท ร่วมหุ้นกัน 2 คน รวม 20 ล้านบาท นำเข้ารถยนต์หรูได้เพียงแค่ครึ่งคัน จึงไม่เชื่อในข้อแก้ต่างนี้ อีกทั้งการรับเงินไปเข้าบัญชีไว้นาน 1 ปี แล้วค่อยคืนเงินกันภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตอนุมัติเงินกู้ พฤติการณ์แห่งคดีจึงเข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ซุกซ่อน ปกปิด อำพราง แหล่งที่มาของทรัพย์สิน


ส่วนวงเงิน 26 ล้านบาท เป็นวงเงินอีกก้อนที่ ปปง.ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ ดีเอสไอ สอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามที่ปรากฏหลักฐานเส้นทางการเงินโดยเงินก้อนนี้เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2546 นายธีรโชติ พรมคุณ พนักงานของ บริษัท กฤษดามหานคร ได้ซื้อแคชเชียร์เช็ค ธนาคารไทยธนาคาร 26 ล้านบาท โดยหักจากบัญชีของ วิชัย กฤษดาธานนท์ สั่งจ่าย "พานทองแท้" และนำเข้าบัญชีของ "พานทองแท้" ที่ธนาคารกรุงเทพ แต่ในวันเดียวกันมีการยกเลิกรายการ

"พานทองแท้" ชี้แจงว่า เงินดังกล่าว รัชดา กฤษดาธานนท์ ต้องการฝากซื้อหุ้น จึงแนะนำให้โอนเงินไปเข้าบัญชีของนางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนาภา หงส์เหิน (เลขาส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร) เพื่อฝากให้นายวันชัย หงส์เหิน (สามีกาญจนาภา หงส์เหิน) ซื้อหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด ผ่านพอร์ตหุ้นของนางเกศินี วันรุ่งขึ้นนายธีรโชติ ซื้อแคชเชียร์เช็ค 26 ล้านบาท สั่งจ่ายเข้าบัญชีของนางเกศินี


ในชั้นสอบสวน ปรากฏหลักฐานเพียงการโอนเงินไปซื้อหุ้น 26 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาขายหุ้นทำกำไร ไม่พบหลักฐานการโอนเงินคืนให้นายรัชดา โดย"วันชัย"และ"กาญจนาภา"อ้างว่า ทยอยคืนเงินให้ "รัชดา" เป็นเงินหลายครั้ง ครั้งละประมาณล้านบาทเศษ โดยทำบันทึกจ่ายเงินกันเพียงคร่าว จึงไม่มีหลักฐานในการคืนเงินกันอย่างเป็นทางการ


จากหลักฐานในชั้นแจ้งข้อกล่าวหาในวงเงิน 26 ล้านบาท จึงเข้าองค์ประกอบฟอกเงิน จากการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน


"พานทองแท้" ได้โพสเฟสบุ๊ค เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ใจความว่า "ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนกระบวนการยุติธรรม" ซึ่งเป็นคำกล่าวของ มงแต็สกีเยอ ที่คุณพ่อผมเพิ่งนำมาทวิตไปเมื่อวันก่อน


ถึงเวลาที่โอ๊ค "พานทองแท้" จะใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง