svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สงครามการค้า & สงครามค่าเงิน ปะทุ ในเวทีประชุม G20 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

23 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สงครามการค้า & สงครามค่าเงิน ปะทุในเวทีประชุม G20 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกรุงบัวโนสไอเดรส อาร์เจนตินา หลังทรัมป์ทวีตระบุการที่จีน EU และประเทศอื่นๆ ได้ทำการปั่นค่าเงิน ขณะที่สหรัฐกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ต้องสูญเสียความสามารถแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม


ส่วนเวทีประชุม G20 ออกแถลงการณ์เตือนเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้า เรียกร้องทุกฝ่ายแก้ปัญหาผ่านการเจรจา หลังเสร็จสอ้นการประชุใเป็นเวลา 2 วัน


ขณะที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐประกาศให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโอกาสการเกิดสงครามค่าเงิน พร้อมยืนยันจะเจรจาการค้าทุกกรณี แต่จะต้องไม่มีทั้งภาษีนำเข้าสินค้าทั้ง Tariffs และ Non-Tariffs มาตรการกีดกันทางการค้า และมาตรการการอุดหนุนทางการค้า


1. สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประกาศในระหว่างการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ว่าจะไม่เกิดสงครามค่าเงิน แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซ้ำอีกครั้ง รวมทั้งกล่าวหาว่าจีน และสหภาพยุโรป (EU) ปั่นค่าเงิน

สตีเวน มนูชิน กล่าวให้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโอกาสการเกิดสงครามการเงิน เพราะมันจะไม่เกิดขึ้น

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความที่กล่าวหาจีน EU และประเทศอื่นๆ ได้ทำการปั่นค่าเงิน และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สหรัฐกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สหรัฐสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม


2. ทั้งนี้ ระธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความวืจารณ์เฟดรอบที่ 2 วันศุกร์ว่า สหรัฐไม่ควรถูกทำโทษเพราะเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี การขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่รัฐบาลได้ทำ และเราควรได้รับโอกาสในการรับสิ่งที่สูญเสียไปจากการที่ประเทศอื่นปั่นค่าเงิน และทำข้อตกลงที่เอาเปรียบทางการค้า

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเฟด ถึงการดำเนินนโยบาการเงินที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ



3. ขณะที่เวทีประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ได้ออกแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน ว่า สงครามการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาและเป็นรูปธรรม

แถลงการณ์ยังระบุว่า ที่ประชุมได้เห็นพ้องกันเก่ยวกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก แต่ก็ไม่ได้กล่าวถึงการใช้มาตรการที่จริงจังในการป้องกันการลุกลามของนโยบายกีดกันการค้า

นกจากนี้ เศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง อัตราว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำรอบ 10 ปี แต่การที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างไม่สมดุลกัน จึงมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวลงในระยะสั้น และระยะกลางที่มีมากขึ้น เนื่องจากภาวะเปราะบางด้านการเงิน ภาวะตึงเครียดด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลต่อการเติบโตที่อ่อนแรงลง โดยเฉพาะปัญหาเชิงโครงสร้างในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วบางแห่ง



4. ที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง G20 ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และ EU ได้แสดงความกังวลถึงข้อพิพาทการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในการประชุมวันแรก


การประชุมครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยทั้งสองประเทศต่างก็บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ โดยต่างฝ่ายขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 16,000 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้


5. ผู้นำสหรัฐยังได้ออกมาประกาศย้ำว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า เขาจะไม่ดำเนินการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนอย่างนั้น ถึงแม้สมควรจะดำเนินการก็ตาม โดยย้ำในจุดยืนที่ต้องการจะให้มีการค้าเสรีและการค้าที่เป็นธรรม โดยพร้อมที่จะเจรจากับประเทศคู่ค้าทั้งจีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น บนหลักการเดียวกัน


สตีเวน มนูชิน กล่าวว่า การเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นรอบใหม่ จะต้องไม่มีทั้งภาษีนำเข้าสินค้าทั้ง Tariffs และ Non-Tariffs มาตรการกีดกันทางการค้า และมาตรการการอุดหนุนทางการค้า

logoline