การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถึง 4 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนยังมีโอกาสไหลออกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีฐานะด้านต่างประเทศอ่อนแอ นอกจากนี้ยังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันที่มองว่าจะผันผวนมากขึ้น หลังสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรอิหร่านขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นไทยมองว่ายังน่าสนใจจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทั้งนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 4.3%
อย่างไรก็ตามการลงทุนควรเน้นกระจายความเสี่ยงและหาจังหวะที่เหมาะสมเข้าลงทุน เช่น สำหรับพอร์ตการลงทุนระยะยาว แนะนำลงทุนหุ้นไทย 16% หุ้นตลาดเกิดใหม่ 4% หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 12% สินทรัพย์ผสมกึ่งหนี้กึ่งทุน 16% ตราสารหนี้/เงินฝากระยะยาว 35% สินค้าโภคภัณฑ์ 2% และเงินสด 15%
สำหรับการลงทุนที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แนะนำลงทุนหุ้นไทย 18% หุ้นตลาดเกิดใหม่ 6% หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 12% ตราสารหนี้/เงินฝากระยะยาว 43% และสินทรัพย์ผสมกึ่งหนี้กึ่งทุน 21%