svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"สมรักษ์" ไม่ฟันธง "โป๊ป-เบลล่า" ลง "พรหมลิขิต"

23 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมรักษ์ ณรงค์วิชัย หนึ่งในผู้บริหารช่อง 3 ไม่หวั่นถูกคนมอง "โป๊ป"ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ในละครเรื่อง "ข้ามสีทันดร"ไม่เปรี้ยง ย้ำเรื่องนี้ขายฝีมือของนักแสดง

เหตุจากความดังสุดขั้วของพระเอกหนุ่ม "โป๊ป" ธนวรรธน์ ในบทของ "พี่หมื่น" จากละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" จนทำให้มีหลายกระแสมองว่าช่อง 3 ได้ตัดสินใจนำละครเรื่อง "ข้ามสีทันดร"ดึงรั้งเรตติ้งต่อไป ทว่ากลับไม่เป็นดั่งใจหวังทั้งกระแสที่เกิดขึ้นกลับเงียบกริบน้อยคนนั้นที่จะพูดถึง โดยเฉพาะเรตติ้งที่ดูจะไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเรื่องที่แล้ว ล่าสุด "บันเทิง คมชัดลึก" ได้มีโอกาสสอบถามกับ "สมรักษ์" ผู้บริหารคนเก่งของวิก เพื่อทราบถามเรื่องดังกล่าวและในมุมของการนำเสนอว่าเหตุใดจึงได้นำเรื่อง "ข้ามสีทันดร" มาฉายต่อทันที

"สมรักษ์" ไม่ฟันธง "โป๊ป-เบลล่า" ลง "พรหมลิขิต"

"เรื่องนี้มันขายฝีมือ เรายอมรับว่าสนุกทุกคนสนุกทุกตัวละคร คืองานดีมาก ใช้คำนี้ดีกว่า ประเด็นเรื่องเส้นเรื่องชัดเจนพูดถึงเรื่องครอบครัว ซึ่งจริงเราหวังอยู่ว่า แล้วคนที่มีลูกมีเต้ามีครอบครัวน่าจะดู น่าจะเรียนรู้อะไรบ้างอย่าง ส่วนครอบครัวที่ว่าลูกโตแล้วหมดวัยแล้วอาจจะไม่มีอะไร จริงๆ เราหวังให้คนในครอบครัวดูเพื่อที่จะเห็นมุมมองการสื่อสารและการเลี้ยงลูก เพราะลูกคือการสื่อสารในครอบครัวที่เราต้องการจะบอก แล้วเรื่ิองเพื่อนและการท้าทายไม่ควรอย่างยิ่งเด็กลูกผู้ชายถูกท้าทายว่าไม่กล้าว่าเป็นคนปอด เป็นจุดที่เราอยากให้เห็น เราถือว่าเราทำตรงนีี้ในแง่ของความบันเทิงเพื่อความสนุกสนาน เรามีสารที่จะบอกเรื่องตรงนี้อย่างชัดเจน (หลายคนมองว่าช่อง 3 ต้องการเอากระแสความเป็นโป๊ปล่ะ)ไม่เกี่ยวกับตรงนั้นเลย เราเห็นว่าโป๊ปเล่นสองบทมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิิง แล้วสิ่งที่เขาไม่เคย เช่นไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เขาสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างที่ไม่ต้องไปทำ เขาพยายามเรียนรู้และศึกษาถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี แล้วมีอยู่ตอนหนึ่งน่าจะเป็ฯตอนที่ 5 เรานั่งดูแล้วยังขนลุก ครบเครื่องสาระพัดทุกอย่างในวันนั้น นั่งกินข้าวเคล้าน้ำตา เรตติ้งในกรุงเทพของเราถือว่าดีนะ เป้าหมายของช่อง 3 คือกรุงเทพอยู่แล้ว 15+ แล้วเราก็ได้ตรงนี้่จริงๆ เราไม่ได้นอยด์นะ เราดูตัวเลขแล้วเราก็ชัดเจน กลุ่มเป้าหมายของเราชัดเจน แต่เราเพียงเสียดายว่าบางช่วงน่าจะดูเพื่อฉุกคิดอะไรบ้างอย่าง



"สมรักษ์" ไม่ฟันธง "โป๊ป-เบลล่า" ลง "พรหมลิขิต"

ภาพจากละครเรื่อง "ข้ามสีทันดร"

เราจะเห็นเลยว่าตู่ (นพพร) กับต่าย (เพ็ญพักตร) พ่อและแม่ ซึ่่งแม่จะเป็นคนคอยจี้ๆ แล้วพ่อจะเบาๆ แล้วอีกครอบครัวหนึ่งแม่ถูกกดขี่แล้วพ่อเป็นเผด็จการ กว่าจะถึงจะจุดเปลี่ยนว่าพ่อจะเข้าใจเพราะอะไร (ยืนยันว่าสิ่งที่เลือกมาลงโอเคแล้ว) ใช่เราโอเคแล้ว นักแสดงเราๆ ออกต่อๆ กันตั้งหลายคนไม่ว่าจะเป็นเต้ย(จรินทร์พร) ใครต่อใคร สิ่งที่เราเจอกลับมาคนดูบอกว่านี้คือนักแสดง เรายืนยันว่านักแสดงของเรามืิออาชีพ โปรดักชั่น งานเรา บทอาชีพมาก ระดับสากลมาก มั่นใจ แล้วงานทุกวันที่เราทำมันพัฒนาขึ้นไปจนไม่รู้จะอธิบายไปอย่างไร หากคนเราได้ดูนะ มันเล่นกันสุดยอดมาก (บางกระแสมองว่าข้ามสีทันดรไม่เปรี้ยงในมุมมองของผู้บริหารข้ามผ่านประเด็นพวกนี้ไปแล้ว) อืม อันนี้แล้วแต่ สำหรับเรางานเราลงร้อยแล้ว ส่วนสมัยนี้เขาจะดูเราไหม เขาดูเราแต่อาจจะดูทีหลัง เขาดู ถามรู้จักไหม เขารู้จัก เรามั่นใจ"



"สมรักษ์" ไม่ฟันธง "โป๊ป-เบลล่า" ลง "พรหมลิขิต"


ถามถึงเหตุใดถึงพับโปรเจกท์ "เวียงกุมกาม" ของ "หน่อง"อรุโณชา

"ไม่นะ จริงๆ ยังไม่ได้อะไรเลยคือบทก็ยังไม่มาเลยเท่านั้นเอง (ก่อนหน้านี้ทาง "หน่อง"ให้ข่าวว่าวางตัวเป็น "โป๊ป"กับ "เบลล่า" ไปแล้วด้วย) เอาตามนี้เอาให้งานเสร็จก่อน พอบอกว่าจะเป็นคนนั้นคนนี้มันจะมีเรื่องไปพูดกันต่อเรายืนยันนะว่ามันไม่มีใครแทนใคร ขอให้ทุกอย่างมันจบก่อน (มาถึงเรื่องพรหมลิขิตล่ะ) นิยายยังเขียนไม่จบเลย (ทางคนเขียนวางไว้แล้วว่าเป็นโป๊ปกับเบลล่าเหมือนกัน) อันนั้นก็ว่ากันไปนะ (สำหรับช่องล่ะ) เอาวันทำงานค่อยมาว่ากัน(ถามตรงว่ากับพรหมลิขิตจะเป็นการกลับมาของคู่นี้)เรายังไม่เห็นอะไรเลย ตอนนี้อยู่ที่งานมากกว่านะว่าจะทำได้รวดเร็วขนาดไหนนะ (ถามว่าหาก 2 คนมาเจอกันอีกยังขายได้ไหม)เราไม่รู้ (เน้นเสียง) ณ วันนั้นเราไม่รู้หรอก ธรรมชาติของโลกมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว มันมีเกิดมีดับ ๆ เป็นเรื่องธรรมดา"

"สมรักษ์" ไม่ฟันธง "โป๊ป-เบลล่า" ลง "พรหมลิขิต"


อย่างล่าสุด "ป้าแจ๋ว" ยุทธนา ขอถอดใจไม่รีเมคละครเรื่อง "รักเดียวของเจนจิรา" เพราะว่าเหตุว่าเจอคนติเยอะจากเรื่อง "บ่วงหงส์"



"มันไม่ใช่เรื่องของกระแสอะไรหรอกนะ เวลาคนพูดมันก็นั่นไป แต่เวลาเดี๋ยวนี้จะใช้เงิน เราก็นั่งนึกเหมือนกันว่าใช้เงินไปเท่าไหร่แล้วมันจะกลับมาเท่าไหร่ เรื่องการตลาดบวกลบคูณหารสะหน่อยหนึ่งเราก็คิดคำนวณว่าจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เรารู้ว่าคนเขาอยากดูอะไรใหม่ ๆ อะไรที่จะรีเมคเรื่องมันต้องเด็ดจริงๆ มันต้องมีการสามารถเล่าได้ใหม่กว่าเดิมจริงๆ ถ้าทำไมถึงเราไม่ทำนะ ตอนนี้มีบทหลายเรืื่อง วางทิ้่ง เพราะเรารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ (ด้วยว่าปีนี้การแข่งขันสูงมากกว่าเดิม) เราไม่ได้มองเรื่องการแข่งขัน เรามองว่ามนุษย์เห็นอะไรได้มากขึ้น มนุษย์มีอะไรที่เสพง่ายกว่าเดิม เสพได้หลายสื่อ เขาดูนั่นดูนี้ มีอะไรให้ดูเยอะ เราก็ต้องทำอะไรที่เขาไม่เคยดู มันต้องคิดไปถึงขนาดนั้น สื่ออื่นเป็นคู่แข่งไหม เราไม่ได้บอกแบบนั้นนะ เราเป็นสื่อหลัก เราต้องหาอะไรที่แน่นอนและชัดเจน"

logoline