เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของน.ส.พิมพ์พิไล หรือฟาง ปักษี อายุ 22 ปี พร้อมทั้งครอบครัวผู้เสียหาย ภายหลังถูกแฟนทอม คือน.ส กาญจนา สินประเสริฐ อายุ 27 ปี ทำร้ายร่างกายจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัสบวมบูดไปทั่วบริเวณใบหน้า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บริเวณใต้ลานจอดรถ เอสพี เพลส ซอยรัชดา 36 แยก9 แขวงจัทร์เกษม เขต จตุจักร กทม.หลักเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สน.พหลโยธิน
น.ส.พิมพ์พิไล กล่าวว่า โดยก่อนเกิดเหตุตนเดินทางไปดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนที่ห้องของเพื่อนในหอพักที่เกิดเหตุโดยแฟนทอมได้เดินทางตามมานั่งดื่มกินด้วยระหว่างนั้นก็ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันแม้แต่อย่างใด จนผ่านไปสักระยะหนึ่งกลุ่มเพื่อนตนและแฟนทอมเริ่มเมา จึงได้ชักชวนกันกลับบ้าน. ตนก็ลุกเอาแก้วและจานชามไปล้างจากนั้นก็มานั่งข้างแฟนทอมเพื่อพูดคุยกันต่อแต่แฟนทอมก็เมาเผลอหลับไป ตนก็หยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปแฟนขณะหลับและส่งเข้ากลุ่มไลน์เพื่อนเพื่อหยอกล้อกัน หลังจากนั้นก็ได้แอบหยิบโทรศัพท์ของแฟนทอมขึ้นมาแล้วเอานิ้วมือสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดเช็คโทรศัพท์แฟนทอม ขณะที่หลับแต่ไม่สามารถสแกนได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ2วันแฟนทอมก็ยังสแกนลายนิ้วมือให้ตนเองตรวจโทรศัพท์โดยไม่เคยมีความลับปิดบังกันมาก่อนแต่ครั้งนี้กลับพบว่ามีการเปลี่ยนรหัสผ่านของเครื่องและโปรแกรมไลน์
น.ส.พิมพ์พิไล กล่าวต่อว่า หลังจากแฟนทอมตื่นตนจึงหันไปถามถึงเรื่องเปลี่ยนรหัสไลน์และรหัสเครื่องแต่แฟนทอมกลับไม่ตอบแต่กลับจ้องหน้าตนทำสีหน้าไม่พอใจเหมือนรู้ว่าตนแอบเช็คโทรศัพท์ขณะที่เมาหลับ ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อค เดินออกจากห้องไป ตนเดินตามออกไปและพยายามสอบถามอีกครั้ง ครั้งนี้แฟนทอมกลับโวยวายและตอบกลับมาว่า"ไม่ชอบก็ต่างคนต่างอยู่" ตนได้ยินอย่างนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ลงมานั่งรอด้านล่างซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่นานแฟนทอมก็เดินตามตนลงมา แต่เมื่อลงมาถึงลาดจอดรถแฟนทอมกลับไม่ยอมเดินไปเอารถจยย.มาสักที ตนจึงโมโหเข้าไปพยายามจะแย่งกุญแจรถเพื่อจะไปเอารถจยย.ขี่กลับบ้านเอง แต่แฟนทอมไม่ยอมจนกระชากกันไปมา ก่อนที่จะผลักตน ตนจึงตบไปที่หน้าแฟนทอมก่อน 1ที หลังจากนั้นแฟนทอมก็กระหน่ำใช้หมวกกันน็อคและทำร้ายร่างกายตนตามกล้องวงจรปิดที่ปรากฏ
ด้าน นางปวีณา เปิดเผยว่า ทางญาติผู้เสียหายได้ติดต่อมาที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ดูอาการพร้อมทั้งเป็นห่วงเนื่องจากมีอาการชาบริเวณดวงตาและเขี้ยวคล้ำไปทั่วบริเวณใบหน้า ทั้งนี้ต้องรอคำปรึกษาจากทางแพทย์อาจจะต้องถึงขั้นทำการผ่าตัด โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังผกก.สน.พหลโยธิน เพื่อจะนำน้องฟางไปแจ้งความดำเนินคดีซึ่งก่อนหน้านี้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เพียงแค่นั้น ซึ่งระหว่างนี้ต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางโรงพยาบาลเพื่อนำไปส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี อีกทั้งยังต้องนัดกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของการผ่าตัดโดยคาดว่าอีกประมาณ 2 วันด้านนางนิฤมล ปักษี อายุ 54 ปี มารดาผู้เสียหายกล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุฝ่ายที่ทำร้ายลูกสาวตนได้ติดต่อเพื่อไกล่เกลี่ยโดยตนได้เรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจำนวน1แสนบาท แต่ทางฝ่ายที่ทำร้ายไม่ยอม ขอลดค่าเสียหายเหลือ5หมื่นบาท หากไม่พอใจให้ฝ่ายตน ไปแจ้งความเพื่อฟ้องร้องเองเอง ตนเห็นว่าลูกสาวตนถูกทำร้ายอาการสาหัสมากเกินไปหลักจากนี้จะเดินเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด