ชาวโคราชรับไม่ได้! แรมโบ้อีสานจะถอนคำสาบานย่าโมหวนเล่นการเมือง

จากกรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช.ซึ่งเคยจุดธูปสาบานต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สาบานตนว่าจะไม่หวนกลับมาเล่นการเมือง และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด ก่อนที่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.61) นายสุภรณ์ฯ จะออกมาเปิดเผยว่า ตนเองทนเสียงเรียกร้องจากประชาชนไม่ไหว ที่อยากจะให้กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง จึงได้เตรียมที่จะเดินทางมาจุดธูปถอนคำสาบานต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีในเร็วๆนี้ เพื่อที่จะกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง โดยจะหันไปร่วมกับกลุ่มสามมิตรและพรรคพลังประชารัฐนั้น

ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งอาศัยอยู่รอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงเรื่องที่นายสุภรณ์ฯ จะมาถอนคำสาบานเพื่อกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง โดยนางอรุณรัตน์ ตอบกลาง อายุ 63 ปี กล่าวว่า คำพูดของนักการเมืองแบบนี้เชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะถ้าอยากจะเป็นนักการเมืองที่ดี ต้องพูดจริง ทำจริง มีความหนักแน่น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประชาชน

โดยเฉพาะช่วงที่หาเสียงซึ่งจะต้องเสนอนโยบายต่างๆ ให้กับประชาชนได้รับรู้ และตัดสินใจเลือกเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง ถ้าพูดอย่างทำอย่างใครจะเชื่อถือได้ ตนจึงมองว่าการที่นายสุภรณ์ฯ พูดเช่นนี้ จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือให้กับตัวเขาเอง ซึ่งประชาชนทุกวันนี้ฉลาดพอที่จะรู้ว่านักการเมืองแบบไหนน่าเลือกมาเป็นผู้แทนประชาชน ไปทำงานในรัฐสภา

นายประสงค์ ฉุนจะโปะ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่ลานอนุสาวรีย์ (ย่าโม) มานานกว่า 10 ปีแล้ว และเห็นว่ามีนักการเมืองมากมายได้มากราบไหว้ขอพรทุกครั้งก่อนเลือกตั้ง ซึ่งย่าโมถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวโคราชทุกคน และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของโคราช ดังนั้นการที่นักการเมืองจะมาสาบานอะไร ก็ควรที่จะยึดถือไปประพฤติปฏิบัติให้ได้ ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่างเหมือนของเล่น ถ้าอย่างนั้นอย่าเสียเวลามาสาบานเลยดีกว่า

ทั้งนี้ตนคิดว่าถ้านักการเมืองที่ดี มีความตั้งใจจริงที่จะมาพัฒนาบ้านเมืองอย่างสุจริต ไม่คิดโกงบ้าน โกงเมือง ประชาชนก็อยากจะสนับสนุนอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นนักการเมืองที่เข้ามาเพื่อหวังจะโกงบ้าน โกงเมือง ทุกวันนี้ประชาชนเขาฉลาดกันหมดแล้ว เขาคงไม่เลือกมาเป็นตัวแทนแน่นอน

ซึ่งการที่นักการเมืองจะพูดกลับไป กลับมาอย่างนี้ ตัวเองก็น่าจะรู้ตัวดีว่าสมควรหรือไม่ ที่จะเสนอตัวมาสมัครเป็นผู้แทนให้ประชาชนเลือก ก็ขอให้พิจารณาดูด้วยตัวเอง ซึ่งตนเองเป็นคนหนึ่งที่จะไม่เลือกคนแบบนี้มาเป็นผู้แทนแน่นอน