วันที่ 20 ก.ค.2561 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ รอง ผกก.4 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 และ กก.4 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายสุทธิพงษ์ อายุ 32 ปี ถ.พหลโยธิน ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1644/2561 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2561 ข้อหา "กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี, โทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกัน, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุอายุไม่เกินสิบห้าปี, พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่ออนาจาร" โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 320/1 ถ.พหลโยธิน ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง
พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลีย ได้ทำการจับกุมนายฤชา โต๊ะพุทชา ในข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ก่อนที่จะมีการตรวจพบภาพ นายฤชาฯ กับ ชายไทยอีกคนหนึ่ง กำลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กไทย จำนวนหลายคนในโทรศัพท์มือถือของนายฤชา เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลีย จึงได้ประสานงานส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ผ่านทางตำรวจสากล เพื่อสืบสวนขยายผล
กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า เด็กที่ถูกล่วงละเมิดพักอาศัยอยู่ย่านมีนบุรี คือ ด.ช.เอ และ ด.ช.บี นามสมมุติ อายุ 10 ปี และ 9 ปี ตามลำดับ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กทั้งสอง จนทราบว่าผู้ต้องหาที่ปรากฏตามภาพคือ นายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหารายนี้ จึงได้ให้ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จนมีการออกหมายจับดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้กบดานซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักใน จ.ลำปาง จึงนำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ฯ ยังได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องหารายนี้ ที่ จ.ลำปาง และบ้านพักของนายฤชา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ อีก 1 จุดในพื้นที่ย่านมีนบุรี ซึ่งจากการตรวจค้นพบภาพ และคลิปวีดีโอ ที่เข้าข่ายเป็นสื่อลามกอนาจารเด็กอีกเป็นจำนวนมาก ภายในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ของผู้ต้องหา จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามฯ
จากการสอบสวน นายสุทธิพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันตนเองประกอบอาชีพเป็นช่างติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ โดยก่อนหน้านี้ตนและนายนฤชา ได้คบหาเป็นแฟนกัน แต่ด้วยความที่ตนและนายนฤชา มีรสนิยมทางเพศชื่นชอบเด็กผู้ชายเหมือนกัน จึงได้ร่วมกันล่อลวงเด็กชายอายุระหว่าง 5 10 ปี จำนวนหลายคนมากระทำการล่วงละเมิดทางเพศหลายต่อหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบอีกว่า นอกเหนือจากเด็กชายเอ และเด็กชายบี ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศตามภาพหลักฐานแล้ว ยังมีเด็กผู้ชายในพื้นที่จังหวัดลำปางอายุประมาณ 4-5 ปี อีก 2 คน ถูกนายสุทธิพงษ์ ล่วงละเมิดทางเพศด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานแจ้งไปยังผู้ปกครองของเด็กให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองลำปาง เพิ่มเติมอีก 2 คดี
นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นและรูปภาพต่างๆภายในโทรศัพท์มือถือของนายสุทธิพงษ์ ยังพบอีกว่าในช่วงขณะที่นายสุทธิพงษ์ฯ เคยอาสาไปช่วยงานดูแลเด็กในเนอเซอรีแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.เมืองลำปาง นั้นยังได้ก่อเหตุกระทำอนาจารเด็กในเนอเซอรี่ดังกล่าวอีกหลายคน ซึ่งทางตำรวจกองปราบปรามจะมีการสืบสวนขยายผลต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป