svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธนาคารกลางจีนเลือกทำ Quasi QE อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในประเทศ

19 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ธนาคารกลางจีนเลือกทำ Quasi QE อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในประเทศ มียอดคงค้างสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นวงเงินมากกว่า 4.42 ล้านล้านหยวน ขณะที่เงินหยวนร่วงแตะ 6.7066 หยวนต่อดอลลาร์ในตลาด Onshore วันพฤหัสฯ เช่นเดียวกับ เงินหยวนในตลาด Offshore ดิ่งลงรวดเร็วกว่ามาแตะที่ระดับ 6.7924 หยวนต่อดอลลาร์ เป็นการร่วงลงทั้งสองตลาดมากกว่า 7% เพียงแค่ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

1. Quasi QE ถืแเป็นมาตรการเสริมสภาพคล่องทางการเงินที่มีระยะเวลาปานกลางของธนาคารกลางจีนที่เรียกว่า Medium Term Loan Facility (MLF) ที่เป็นการให้กู้ยืมผ่านหน้าต่างเงินกู้ของธนาคารกลางที่ให้เสริมสภาพคล่องต่อกับธนาคารพาณิชย์ ก่อนที่จะนำไปปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ รวมทั้งเพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในตลาดบอนด์ที่มี Ratimg AA+ และต่ำกว่า


ธนาคารกลางจีนได้เปิดเผยถึงผลการให้กู้ยืมจากการใช้นโยบาย QUasi QE ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่เรียกว่า MLF,ในเดือนมิถุนายน จำนวน 663,000 ล้านหยวน หรือราว 100,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดคงค้าง (Outstanding) รวม 4.42 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากยอดคงค้างจำนวน 4.017 ล้านล้านหยวน เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม




2.  นโยบาย Quasi QE ของธนาคารกลางจีน มีความคล้ายกับ QE หรือ Quabtutatuve Easing ที่เป็นการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณเหมือนกัยธนาคารกลางในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว


ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่มีการอัดฉีดสภาพคล่องรวมกันถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินสหรัฐปี 2008 วิกฤติหนี้สาธารณะยุโรปช่วงปี 2011 รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุนจากภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นมานานถึง 25 ปี




3. ในขณะที่เฟดเริ่มยุติการอัดฉีดเงินผ่าน QE ในปี 2015 และหันกลับมาปรับขึ้นดอเบี้ยตั้งแต่ปลายปี 2015 จนถึงการดูดซับเงิน QE กลับเพื่อลดภาระในงบดุล เพื่อให้การดำเนินนโยบายสู่ภาวะปกติ (Normalization) ขณะที่ ECB พร้อมกับยุติการใช้ QE ภายในสิ้นปีนี้ ส่วน BOJ กำลังเตรียมการลดวงเงินการเข้าซื้อบอนด์รัฐบาลญี่ปุ่นและบอนด์ของธนาคารในระบบการเงินภายในประเทศช่วง 2 ปีจากนี้ไป


ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มอว่า ผลกระทบของ Quasi QE จะทำเงินหยวนมีทิศทางเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลง รวมทั้งการเกิดกระแสเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรงในที่สุด หลังจากที่เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งในช่วงปลางปี 2015 ที่เกิดภาวะการตกต่ำของตลาดหุ้น รวมทั้งกระแสเงินทุนไหลออกจนค่าเงินหยวนอ่อนยวบลง และส่งผลต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศจากที่เคยมีสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน




4, ล่าสุดเงินหยวนในตลาด Onshore จากการรายงานของ China Foreign Exchange Trading System ของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 1.52% จากวันก่อนหน้านั้น แตะระดับ 6.7066 หยวนต่อดอลลาร์ในวันพฤหัสฯ เป็นการอ่อนค่าลง 7.2% เพียงแค่ 3 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น


ขณะที่เงินหยวนในตลาด Offshore ดิ่งลงรวดเร็วกว่ามาแตะที่ระดับ 6.7924 หยวนต่อดอลลาร์ เป็นการร่วงลงถึง 7.8% ในช่วง 3 เดือนเช่นเดียวกัน




5. ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิของจีนร่วงลง 14.71 จุด หรือ 0.53% ที่ระดับ 2,772 ท่ามกลางสถานการณ์ที่ธนาคารกลางจีนยังคงเดินหน้าอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ ผ่านการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations)


โดยที่ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 100,000 ล้านหยวน หรือราว 14,900 ล้านดอลลาร์ ผ่านทางข้อตกลงการขายพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจีนมีแนวฌน้มชะลอตัวลง ซึ่งธนาคารเพื่อการพัฒานแห่งเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.6% ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.4% ในปี 2019 จากการค้าปลีกที่ขยายตัวแข็งแกร่ง รวมทั้งการขยายตัวของการลงทุนในภาคการผลิตที่แท้จริง

logoline