ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดปรับตัวขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 68.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน่้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดตลาดที่ราคา 72.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ทั้งนี้ อีไอเอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล และอีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 44,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 371,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 873,000 บาร์เรล


อีไอเอ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 143,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 7.47 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการกลับมาส่งออกน้ำมันของลิเบีย


บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่ามีการเปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด


นอกจากนี้ สหรัฐได้ประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไป แม้มีการคว่ำบาตรอิหร่าน



นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ประเทศผู้นำเข้านำมันบางรายจะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน