svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"ลูกา โมดริช" นักเตะยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลก 2018

17 กรกฎาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฟุตบอลโลก 2018 ที่เพิ่งจบไป แม้ว่าทีมชาติโครเอเชียจะอกหักทำได้แค่รองแชมป์ แต่ก็มีนักเตะคนหนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นท์มาครองได้สำเร็จ นั่นคือ ลูก้า โมดริช จอมทัพจาก เรอัล มาดริด ซึ่งหลายคนบอกว่าเขาคือคนหนึ่งที่คู่ควรกับรางวัล "บัลลง ดอร์" ประจำปีนี้อย่างที่สุด



ทีมชาติโครเอเชีย ถูกยกย่องจากแฟนบอลทั่วโลกว่าเป็นทีมที่สร้างสรรค์เกมได้สวยงามที่สุด และมีแผงกองกลางที่ดีที่สุดในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา จากการประสานงานกันของ อีวาน ราคิติช และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช รวมถึงเกมริมเส้นของ อีวาน เปริซิช กับ อันเต้ เรบิช แต่คนที่มีอิทธิพลต่อเกมของโครเอเชียมากที่สุดนั้น ต้องยกให้ ลูก้า โมดริช เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งจาก เรอัล มาดริด ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนพา โครเอเชีย คว้าตำแหน่งรองแชมป์โลก ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ

"ลูกา โมดริช" นักเตะยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลก 2018


ลูก้า โมดริช เกิดในช่วงที่ประเทศบ้านเกิดกำลังมีสงครามจนนำไปสู่การล่มสลายของประเทศยูโกสลาเวีย ทำให้ในวัยเด็ก โมดริช ก็ไม่ต่างจากเด็กชาวโครเอเชียคนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไฟสงคราม โดยเขาและครอบครัวต้องอพยพลี้ภัยจากบ้านมาพักอาศัยในโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตให้รอด และด้วยสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ทำให้ "ฟุตบอล" คือสิ่งเดียวที่เด็กอย่าง โมดริช จะหาความสุขได้ในแต่ละวัน โดยหลังจากที่เล่นฟุตบอลข้างถนนกับเพื่อน โมดริชก็ได้โอกาสเล่นให้ทีมฟุตบอลท้องถิ่น ก่อนจะได้เซ็นสัญญากับทีม ดินาโม ซาเกร็บ เมื่ออายุได้ 17 ปี และการเล่นในช่วงนี้นี่เองที่ทำให้ โมดริช ฉายแววยอดนักเตะ ด้วยการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน

"ลูกา โมดริช" นักเตะยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลก 2018


จนกระทั่งปี 2008 โมดริช ก็ได้ย้ายมาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งแม้ว่าช่วงแรกเขาจะยังปรับตัวไม่ได้เนื่องจากเป็นการย้ายมาค้าแข้งต่างแดนเป็นครั้งแรก จนกระทั่ง สเปอร์ส เปลี่ยนกุนซือมาเป็น แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ โมดริชก็กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง จนถูกยกให้เป็นกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่่งของพรีเมียร์ลีก


ความสามารถในการสร้างสรรค์เกมของ โมดริช ทำให้ เรอัล มาดริด ทุ่มเงินถึง 30 ล้านปอนด์ในการคว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2012 ซึ่งแม้ว่าเขาจะต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของบรรดาซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆในทีม แต่ยิ่งนานวัน โมดริช ก็ยกระดับการเล่นของตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการมีอิทธิพลต่อเกม ในสมัยที่เล่นในังกฤษ เขาจะเป็นตัวคอยสร้างพื้นที่ให้แนวรุกคนอื่นเข้าทำเกมบุก แต่ช่วงหลังๆในเรอัล มาดริด โมดริชจะยืนต่ำกว่าเดิมเพื่อคอยคุมจังหวะเกม และอาศัยการเปิดบอลที่แม่นยำของเขาช่วยให้ทีมเข้าไปทำประตู ซึ่งจากความสามารถของเขานี้เองที่ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์รายการต่างๆมากมาย โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 4 สมัยจาก 5 ฤดูกาลหลังสุด




ส่วนในนามทีมชาติ โมดริช ติดทีมชาติโครเอเชียมาตั้งแต่ปี 2006 นับถึงปัจจุบันเขาลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้ว 113 นัด ยิงไป 14 ประตู ขณะที่ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่เพิ่งจบไปนั้น เจ้าตัวลงสนามไป 7 เกม ยิง 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 3 เกม และยังทำสถิติเป็นนักเตะที่วิ่งเป็นระยะทางรวมสูงที่สุดของทัวร์นาเม้นท์ ด้วยการวิ่งไปทั้งสิ้นถึง 63 กิโลเมตร โดยเขาเป็นคีย์แมนผู้ทำให้ โครเอเชีย ทำสถิติชนะทุกนัดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะไปพ่ายฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศ


ฮอร์เก้ วัลดาโน่ นักเตะระดับตำนานของอาร์เจนติน่า กล่าวถึง ลูก้า โมดริช ว่า "เมื่อลูกบอลอยู่ที่เท้าของเขา โมดริชจะทำให้ทุกคนเห็นว่าการเล่นฟุตบอลเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในโลก เซนส์บอลระดับนี้ มีแค่ โมดริช เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้"


เส้นทางการค้าแข้งของโมดริช คว้าเกียรติยศมาสู่ตัวเองและต้นสังกัดมาอย่างนับไม่ถ้วน ถึงเวลานี้คงมีเพียงรางวัล "บัลลง ดอร์" หรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกเท่านั้นที่เจ้าตัวยังไม่เคยสัมผัส อย่างไรก็ตามหากดูจากผลงานในรอบปีที่ผ่านมาแล้ว ชื่อของ ลูก้า โมดริช จะต้องเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆที่จะมีโอกาสคว้ารางวัลนี้อย่างแน่นอน


logoline