โดยมีการโอกาสพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับนายณรงค์ศักดิ์ซึ่งมาพักในโรงแรมเดียวกัน เกี่ยวกับพระเครื่องที่ห้อยคอ พบว่าเป็น"ท้าวเวสสุวรรณ" โดยเจ้าตัวบอกว่ามีความเชื่อในเรื่องสถานที่ ทุกครั้งก่อนไปฎิบัติหน้าที่การช่วยเหลือโค้และเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำ 13 ชีวิต จะไปสักการะศาลเจ้าแม่นางนอน เพื่อให้ภารกิจลุล่วง
สำหรับท้าวเวสสุวรรณ ที่ห้อยอยู่นั้น โดยชื่นชอบและศรัทธาเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และระหว่างการปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือนั้นได้มีคนมามอบให้ เพื่อเป็นเครื่องราง เพื่อให้การปฎิบัติหน้าที่จนสำเร็จ โดยเชื่อว่าส่วนหนึ่งภารกิจที่สำเร็จมีท้าวเวสสุวรรณเป็นแรงเกื้อหนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน)หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า"ท้าวกุเวร"ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก"ท้าวไพสพ"เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายโดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวาร
ว่ากันว่าอาณาเขตที่ ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองนั้นใหญ่มหาศาลมาก และท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย "พระอินทร์" (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , "พระยม" (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ "พระวรุณ" (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก
และเพราะท้าวเวสสุวรรณ เป็นเจ้าแห่งอสูร คนโบราณจึงมักทำรูป ท้าวเวสสุวรรณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันภูตผีปีศาจไม่ให้มารบกวนเด็กเล็กได้และนิยมทำผ้ายันต์รูป ท้าวเวสสุวรรณ รวมทั้งจำหลักรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้ที่มีดหมอของสัปเหร่อ เพื่อกำราบวิญญาณ และยังมีผู้พกพารูป ท้าวเวสสุวรรณ หรือทำเป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันภัยจากวิญญาณอีกด้วย