ในตลาดหลักอาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป ไต้หวัน อินเดีย และคู่ค้าสำคัญอย่างจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของมันเส้นไทย เนื่องจากมันเส้นเกือบทั้งหมดหรือร้อยละ 99 ถูกส่งไปจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะนี้จีนต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล เนื่องจากจีนมีความต้องการใช้เอทานอลเพิ่มมากขึ้น โดยจีนตั้งเป้าใช้เชื้อเพลิงไบโอเอทานอลทั่วประเทศภายในปี 2020 ทำให้มีการเพิ่มปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยอย่างต่อเนื่อง กอปรกับปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังปีนี้ลดน้อยลง โดยรวมจึงฉุดให้ราคามันสำปะหลังของไทยและประเทศเพื่อนบ้านสูงขึ้นทั้งระบบ โดยล่าสุด ราคาหัวมันสดแป้ง 25% ขยับสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.70-1.90 บาท ก่อนหน้านี้ มาอยู่ที่ ราคา เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.15 บาท นับเป็นสถิติราคาหัวมันสดพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรและคุ้มกับต้นทุนการผลิต ขณะที่มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเฉพาะช่วงมกราคม เมษายน 2561 สูงถึง 1,178.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 26.26% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เพื่อรักษาศักยภาพและเสถียรภาพของราคามันสำปะหลัง กรมการค้าต่างประเทศได้ประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด รวมถึงร่วมกับสมาคมมันสำปะหลังที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมเพื่อขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การนำคณะภาคเอกชนเดินทางไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารสัตว์นานาชาติ ครั้งที่ 13 ที่เมืองอันทาเลีย ประเทศตุรกี ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์มันสำปะหลังของไทยให้แพร่หลายในตลาดตุรกี ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการรองรับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยได้ โดยเฉพาะการใช้ มันสำปะหลังในสูตรอาหารสัตว์ ซึ่งน่าจะผลักดันยอดส่งออกให้เติบโตได้สูงถึง 4.5 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้กรมฯ ยังมีแผนที่จะดำเนินกิจกรรมขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลัง เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดจีน โดยในช่วงเดือนก.ย.นี้ ซึ่งกรมฯ จะร่วมกับสมาคมมันสำปะหลังที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังในประเทศนิวซีแลนด์ โดยมั่นใจว่าจะขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายศักยภาพทั้งการผลิตและการส่งออกให้กับผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่า คือการจัดงานประชุมมันสำปะหลังนานาชาติ เพื่อสร้างเวทีในการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมมันสำปะหลังล่าสุด รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้นำเข้าจากต่างประเทศได้เจรจาซื้อขายกับผู้ประกอบการไทย ที่สำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อจากนานาประเทศ และตอกย้ำจุดยืนที่ไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลก
ขณะเดียวกันก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดันให้ภาคเอกชนร่วมมือกันรักษาระดับราคามันสำปะหลังในประเทศ โดยใช้กลไกของภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อน ในการแก้ไขปัญหาการขายตัดราคา ซึ่งช่วยให้ราคามันสำปะหลังในประเทศ มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้กลไกแทรกแซงของภาครัฐ รวมทั้งการออกข่าว ประสานข้อเท็จจริงเชิงลึกจาก สพต.ปักกิ่ง เพื่อแก้ปัญหาข่าวลือที่ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาของผู้ค้ามันสำปะหลังไทย และสร้างความร่วมมือด้านมันสำปะหลังกับประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ เตรียมจัดงานประชุมมันสำปะหลังนานาชาติปี 2561 หรือ World Tapioca Conference 2018 ขึ้น ในวันพรุ่งนี้ (28 มิถุนายน 2561) ระหว่างเวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยนอกจากการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ และนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมมันสำปะหลังล่าสุด รวมถึงผลงานของเกษตรกรมันสำปะหลังดีเด่นแล้ว ภายในงานยังมีการเซ็น MOU ระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าต่างประเทศได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ตุรกี ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงกิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ส่งออกไทยและคู่ค้าจากต่างประเทศ การประชุมหาความร่วมมือด้านการผลักดันอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ CLV (กัมพูชา ลาว เวียดนาม) และไทย การประชุมระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าจีนอีกด้วย ถือเป็นเวทีหารือความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญเวทีหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนและผลักดันมูลค่าส่งออกมันสำปะหลังไทย ให้ยังคงรักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งผู้ส่งออกมันสำปะหลังของโลก
ผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถชมรายละเอียดได้ที่ www.worldtapiocaconference.com หรือโทรสายตรงกรมการค้าต่างประเทศ 1385