คุณปู่จอร์จ ได้แจ้งความขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่สายการบินไทย ว่าให้ช่วยติดตามหาภรรยาชาวไทย ซึ่งขาดการติดต่อและไม่ได้พบหน้ากันมานานหลายปี โดยคุณปู่จอร์จ มีข้อมูลเพียงแค่กระดาษเพียงใบเดียว ที่เป็นภาษาอังกฤษ ระบุชื่อเล่นของภรรยาชาวไทย และบ้านเลขที่ 80/1 หมู่ 8 ต.เกาะพงัน เท่านั้น
คุณปู่จอร์จ บอกว่า ตนเองต้องการที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลายร่วมกับภรรยาชาวไทย ซึ่งพลัดพรากกันมาเป็นเวลานานหลายปี เจ้าหน้าที่สายการบินไทย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ เพื่อให้ความช่วยเหลือ
หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ จึงได้ประสานงานไปยังตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย เพื่อให้ช่วยติดตามภรรยาชาวไทยของปู่จอร์จ ตามข้อมูลและที่อยู่ดังกล่าว แต่ไม่พบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมีภรรยาชาวไทยของปู่จอร์จ พักอาศัยอยู่แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย จึงได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 71/4 หมู่ 8 ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีหญิงไทยเคยแต่งงานกับชาวต่างชาติ และในปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับญาติ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงได้พบหญิงสาวคนดังกล่าวชื่อ นางกระจ่าง หรือป้าใจ กลับอุ่น อายุ 70 ปี และจากการสอบถามเบื้องต้น ป้าใจ เล่าว่า ตนเองเคยแต่งงานกับ นายเอมิลี่ จอร์จ ฌอง เพดิส มาไทล์ ที่ประเทศไทย โดยอยู่กินกันฉันสามีภรรยาเป็นเวลาถึง 20 ปี ต่อมาปู่จอร์จ มีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว จึงกลับไปรักษาตัวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และขาดการติดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายปี
ภายหลังที่ป้าใจ ทราบว่าปู่จอร์จ ได้กลับมาตามหาตนเอง ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่รอคอยการกลับมาของปู่จอร์จ มานานหลายปี กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงได้ร่วมกับบริษัทสายการบินไทยจำกัดมหาชน จึงได้ร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักข้ามโลกปู่จอร์จ และป้าใจ จึงได้มอบบัตรโดยสารเครื่องบินเดินทางจากสุวรรณภูมิไปเกาะสมุย มอบให้กับปู่จอร์จ เพื่อเดินทางกลับไปและป้าใจ ภรรยา ที่เกาะพงัน ในวันนี้ (25 มิถุนายน 2561) โดยมีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยอำนวยความสะดวกในการเดินทางพาปู่จอร์จ ไปพบป้าใจ ที่เกาะพงัน เพื่อให้คู่รักได้พบกันตามสมปรารถนา ท่ามกลางความปราบปลื้มใจของปู่จอร์จ ที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด