ทำไม "มันสำปะหลัง" ถึงได้รับสมยานามว่า "พืชมหัศจรรย์"?
สำหรับประเทศในเขตร้อนอย่างประเทศไทย มันสำปะหลังถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่เราเพาะปลูกมาช้านาน และเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของไทย ทุกส่วนของมันสำปะหลังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หมด เรียกว่าเป็นพืช Zero Waste อย่างแท้จริง ตั้งแต่ใบ ลำต้น จนถึงราก (หัวมัน) นำไปผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากมายมหาศาล รวมทั้งใช้เป็นวัตถุดิบในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งมันเส้น มันอัดเม็ด แป้งมัน อาหารคน อาหารสัตว์ เคมีภัณฑ์ ฟิล์มถนอมอาหาร บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ เครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ขนมปราศจากกลูเต็น แป้งมันออร์แกนิค ไปจนถึงพลังงานทางเลือกรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเอทานอล เป็นต้น กล่าวโดยสรุปได้ว่า ในแต่ละวันเราทุกคนจะพบกับมันสำปะหลังตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน สมกับคำกล่าวที่ว่า "มันอยู่รอบตัวเรา"
สำหรับเกษตรกรไร่มันสำปะหลังกว่า 500,000 ครัวเรือน การเพาะปลูกมันสำปะหลังคืองานและรายได้ที่ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ในปี 2560/61 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้คาดการณ์ปริมาณผลผลิต ประมาณ 28.57 ล้านตัน ในขณะที่ผลผลิตเฉลี่ย ในปี 2560/61 อยู่ที่ 3.54 ตันต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.31 ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงมาอยู่ที่ 1.87 บาท/กก. ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.09
ด้านการส่งออกในฐานะประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเบอร์หนึ่งของโลก ในปี 2560
ไทยส่งออก มันอัดเม็ด มันเส้น แป้งดิบ แป้งแปรรูป และผลิตภัณฑ์อื่นๆ สูงถึง 2,795.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 94,000 ล้านบาท โดยผู้ซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังส่วนใหญ่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อาหาร อาหารสัตว์ พลังงานทดแทน เคมีภัณฑ์ เป็นต้น
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่ามันสำปะหลังเป็นพืชมหัศจรรย์ที่อยู่รอบตัวเรา และเป็นแหล่งที่มาของรายได้สำคัญของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ดังนั้น เพื่อตอกย้ำศักยภาพของอุตสาหกรรม มันสำปะหลังไทยในฐานะผู้ส่งออกมันสำปะหลังอันดับ 1 ของโลก กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จึงได้กำหนดจัดงานประชุมมันสำปะหลังนานาชาติ (World Tapioca Conference 2018) ระหว่างวันที่ 27- 28 มิถุนายน 2561 ณ ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการผลิตและการค้า ซึ่งจะทำให้เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ส่งออกมันสำปะหลังได้ทราบถึงทิศทางการผลิต การค้า และเตรียมความพร้อมในการผลิตสินค้าป้อนความต้องการของตลาด รวมทั้งจะได้เรียนรู้พัฒนาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเพาะปลูกที่ทันสมัย ที่จะได้นำมาปรับใช้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย พร้อมจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อเป็นการช่วยสร้างโอกาสและขยายมูลค่าส่งออก รวมถึงผลักดันศักยภาพให้ราคาหัวมันสดปรับตัวสูงขึ้น โดยนอกจากการประชุมสัมมนาทางวิชาการแล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการอวดโฉมนวัตกรรมมันสำปะหลังล่าสุดภายใต้แนวคิด "มหัศจรรย์มันสำปะหลังเปลี่ยนโลก" (Tapioca: The Magic Plant for a Sustainable Future) อีกด้วย
ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้ที่ www.worldtapiocaconference.com หรือสายตรง กรมการค้าต่างประเทศ 1385