"เลิฟ"ปรับหมากส่ง"รอยส์"เลื้อยริมเส้น
เยอรมนี เปิดสนามของรอบแบ่งกลุ่มด้วยการแพ้ เม็กซิโก ไปแบบเหลือเชื่อ 0-1 ทำให้นัดนี้จะพลาดเสียท่าไม่ได้อีกแล้วเพราะหากแพ้อีกนัดจะตกรอบทันที
การจัดทัพเกมนี้ โยอาคิม เลิฟ กุนซือของทีมเตรียมปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ยังคงยึดระบบ 4-2-3-1 เช่นเดิม โดยในแนวรับจะได้ โยนาส เฮคเตอร์ กลับมาประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนที่ มาร์วิน แพลทเทนฮาร์ด ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟยังคงใช้ มัตส์ ฮุมเมิลส์ จับคู่กับ เยโรม บัวเต็ง เช่นเดิม
กลางสนามจะถอด ซามี เคดิรา ที่นัดแรกทำผลงานได้อย่างย่ำแย่แล้วส่ง อิลคาย กุนโดกัน ลงคุมเกมร่วมกับ โทนี โครส ส่วนสามประสานแนวรุกจะตัดสินใจดร็อป เมซุต โอซิล พร้อมกับเปิดทางให้ มาร์โค รอยส์ ได้ลงมาลากเลื้อยริมเส้น ส่วน ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ จะสร้างสรรค์เกมอยู่หลัง ติโม แวร์เนอร์ ซึ่งน่าจะยังได้รับโอกาสลงล่าตาข่ายในแดนหน้าแม้เกมแรกจะโชว์ฟอร์มไม่ออกกก็ตาม
ไวกิงได้"ลินเดเลิฟ"ขันแนวรับ
สวีเดน ภายใต้การคุมทัพของ แยนน์ แอนเดอร์สสัน กุยนซือ วัย 55 ปี สามารถเก็บสามแต้มได้สำเร็จหลังเฉือนชนะ เกาหลีใต้ ไปแบบหืดจับ 1-0 โดยได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษของ อันเดรียส แกรนควิสต์
สภาพทีมข่าวดีคือจะได้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ กองหลังคนสำคัญที่นัดแรกป่วยจนพลาดลงสนามกลับมาประจำการในแนวรับได้ในนัดนี้ โดยจะจับคู่กับ แกรนควิสต์ กองหลังตัวเก๋า ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะยังยึดชุดเดิมจากนัดที่แล้วเป็นหลัก ด้วยระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูใช้ โรบิน โอลเซน ลงเฝ้าเสา ฟูลแบ็คสองข้างเป็น มิคาเอล ลุสติก กับ ลุดวิค ออกุสดินส์สัน แดนกลางมี เซบาสเตียน ลาร์สสัน เดินเกมร่วมกับ อัลบิน เอคดัล ส่วนริมเส้นวาง วิคเตอร์ คลาสสัน และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ดาวเตะตัวกลั่นลงสร้างสรรค์เกม โดยคู่หน้า มาร์คุส เบิร์ก จับคู่ช่าตาข่ายกับ โอลา ทอยโวเนน ตามเดิม
ทั้งนี้สถิติการพบกัน 7 นัดหลังสุด สวีเดน ยังไม่เคยเอาชนะทีม อินทรีเหล็กได้เลย โดยแพ้ไปถึง 5 เกม และเสมออีก 2 นัด โดยหนสุดท้ายที่พบกันคือศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ซึ่งขุนพลไวกิงแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-5