ลาวคุมเข้ม "ไกด์เกาหลีเถื่อน" กินรวบ "วังเวียง"

22 มิ.ย. 2561 - คณะสื่อมวลชนอาเซียน ที่เข้าร่วมโครงการโครงการปฏิบัติการเยี่ยมเยือนเพื่อเรียนรู้ระหว่างสื่ออาเซียน (การท่องเที่ยวไทย-ลาว) ลงที่เมืองวังเวียง แขวงเวียงจันทน์ ซึ่งห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประมาณ 160 กิโลเมตร มีสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน ป่าไม้สมบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม ของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้

นางแสงโสดา วันทานุวง รองหัวหน้ากรมโฆษณาการท่องเที่ยว กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กล่าวว่า ทางการลาวได้เข้ามายกระดับการท่องเที่ยวในเมืองวังเวียงให้เป็น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ Ecotourism อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งวางมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบจากการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เติบโตไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จัดโซนท่องเที่ยวเล่นน้ำปลอดภัยไม่ทำลายแหล่งต้นน้ำ  และจัดการขยะที่เกิดจากการท่องเที่ยวโดยขอความร่วมมือกับคนในชุมชนตั้งถังขยะไว้หน้าบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะในบ่อขยะพื้นที่ใกล้เคียง 

"ยอมรับว่าการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ย่อมส่งผลกระทบอย่างแน่นนอน ทางการลาว เคยได้มีการปรึกษาหารือเรื่องนี้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถึงประสบการณ์และบทเรียนจากการพัฒนาการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการรับมือลดผลกระทบ" นางแสงโสดา กล่าว 

นางแสงโสดา กล่าวอีกว่า ทางการลาวต้องการรักษาผลประโยชน์ของชาวชุมชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการกวาดล้างทัวร์เกาหลีเถื่อน ที่มีคนเกาหลีเป็นไกด์นำเที่ยวเบ็ดเสร็จ ถือว่าผิดกฎหมาย ตำรวจท่องเที่ยวลาวไ้ด้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจนสามารถจับกุมไปได้แล้วหลายราย 

"ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ มาเที่ยวที่วังเวียงเฉลี่ยมากถึง 1.75 แสนคนต่อปี ในแต่ละกรุ๊ปทัวร์จะต้องมีคนลาวเป็นไกด์นำเที่ยว จึงจะถูกกฎหมายของทางการลาว และเป็นการทำให้คนในชุมชนได้ประโยชน์" นางแสงโสดา ระบุ 

ด้านนายสุริยา สุวันนะเมที ไกด์นำเที่ยว สปป.ลาวที่รับใบอนุญาตจากกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวลาว บอกว่าปัญหาไกด์ทัวร์เกาหลีที่เข้ามามีบทบาท และหาผลประโยชน์ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะคนลาวยังไม่มีความรู้ภาษาเกาหลีมากนัก ส่วนข้อกังวลว่าการมีไกด์นำเที่ยวเป็นชาวเกาหลีนั้นคือ อาจจะอธิบายประวัติศาสตร์ชาติลาวไม่ถูกต้อง และร้ายแรงไปมากกว่านั้นคือ อาจเข้ามาผูกขาดธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร จนคนในพื้นที่ไม่ได้รับผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น

"ตำรวจท่องเที่ยวลาว และชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการสอดส่องดูแลว่ามีไกด์เกาหลีเถื่อนลักลอบทำทัวร์หรือไม่ หากเจ้าหน้าที่พบจะเริ่มจากมาตรการเบาไปหาหนักคือ ตักเตือน ปรับ และระงับวีซ่าเข้าประเทศ" นายสุริยากล่าว 

ขณะที่ ไกด์ท้องรายหนึ่งที่ขับเรือคายัคนำนักท่องเที่ยว บอกว่าถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ก็จะต้องกลับไปทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และคิดว่าการเป็นไกด์นำเที่ยวเป็นงานที่สบายกว่า รายได้ดีกว่าการเป็นผู้ใช้แรงงาน 

ทั้งนี้ ปัจจุบันวังเวียงเปลี่ยนไปมาก เข้มงวดในระบบความปลอดภัยมากขึ้น จากเดิมที่เคยมีนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวตะวันตกเข้ามาท่องเที่ยวแบบปาร์ตี้ มีร้านสุราขึ้นตามแพริมน้ำจำนวนมาก เกิดการมั่วสุม เสพยาเสพติดจำพวกฝิ่น อบายมุขทั้งกลางวันกลางคืน ขัดต่อภาพลักษณ์ความเป็นเมืองชนบทของวังเวียง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มสุราจนเมามายและลงไปเล่นในแม่น้ำซอง ในสภาพที่ขาดสติ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง 

ในท้ายที่สุดรัฐบาลลาว จึงได้เข้าไปจัดระเบียบวังเวียง มีการสั่งปิดสถานบันเทิงไปหลายแห่ง ตามมาด้วยการฟื้นฟูการท่องเที่ยววังเวียงให้กลับไปสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการอนุรักษ์ดังเดิม

นายสะหวันคอน ราดซะมนตรี  รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาวกล่าวว่า กระแสความนิยมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกำลังเป็นที่ตื่นตัวอย่างกว้างขวางในภูมิภาคอาเซียน และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างภูมิภาค ที่ต้องการสัมผัสวิถีธรรมชาติ วิถีชีวิตที่บริสุทธิ์และสงบในภาพลักษณ์แบบเอเชีย 

"เมืองวังเวียง แขวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ซึ่งมีจุดเด่นที่ทิวทัศน์ภูเขาหินปูนคล้ายกุ้ยหลิน ประเทศจีน ล้อมรอบด้วยผืนนาข้าว และมีแม่น้ำซองไหลผ่าน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ปั่นจักรยาน ดำน้ำ โรยตัวข้ามแม่น้ำ" นายสะหวันคอน กล่าว