ไม่รอดสายตา..! ทหารจับหนุ่มสุพรรณ ขนหอมพม่าหนีภาษีกว่า 2 ตัน ลอบนำเข้าชายแดน อ้างรับมาจากพ่อค้าอีกที

เมื่อเวลา10.30น.วันที่19 มิ.ย.2561 พ.อ.พิเชษฐ์  หัสดีผง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่าได้รับรายงานจะมีการลักลอบนำสินค้าเกษตรหนีภาษี จากประเทศเมียนมา เข้ามาในพื้นที่อ.สังขละบุรี เพื่อส่งต่อไปยังกรุงเทพฯ จึงพร้อมด้วย ร.ต.อาคม  มงคลนำ ผบ.มว.ลว.ที่ 1 ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ร่วมกับ นายวัลลภ ชุ่ยรักษา นายด่านศุลกากร อ.สังขละบุรี นส.ฐิติมา ปภัสราทร หน.ด่านตรวจพืชสังขละบุรี, ตร.สภ.สังขละบุรี, ร้อย.ตชด.134 และ จนท.ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบรถยนต์ยานพาหนะต่างๆอย่างเข้มงวด บริเวณจุดตรวจร่วมสะพานรันตี ถนนสายสังขละบุรี-ทองผาภูมิ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี  

กระทั่งมีรถกระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 1521 กาญจนบุรี มี นายมุจจรินทร์  ศรีสุข อายุ 38 ปี ที่อยู่ 258 ม.4 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณขอทำการตรวจค้น  จากการตรวจค้นหลังรถกระบะที่ปิดทึบเป็นตู้ พบหอมหัวใหญ่ จำนวน 60 กระสอบ ๆ ละ 40 กก. น้ำหนักรวม 2,400 กก. มูลค่ากว่า 50,000 บาท เจ้าหน้าที่ทำการตรวจคุณภาพหอม พบไม่ได้มาตรฐานทางสินค้าการเกษตร มีเชื้อราในหอม ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งไม่ได้ผ่านการตรวจสอบเอกสาร และอนุญาตจากหน่วยงานความมั่นคง ในการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทย

   นายมุจจรินทร์  รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากร้านน้องน้ำแข็งผักสด ให้เข้าไปขนหอมหัวใหญ่ในฝั่งประเทศเมียนมา โดยใช้ช่องทางธรรมชาติลักลอบขนออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงหลบด่านตรวจ ก่อนจะมาถูกจับกุมที่ด่านตรวจร่วมสะพานรันตี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา นำหรือพาสิ่งของ (หอมหัวใหญ่) ที่ยังมิได้ผ่านการเสียภาษีศุลกากร หรือของที่ยังมิได้ผ่านกรรมวิธีศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย  และนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ กล่าวว่า หัวหอมเถื่อนที่จับกุมได้ มีการลักลอบนำเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติแนวชายแดน อ.สังขละบุรี และส่งต่อไปยังหัวเมืองชั้นใน เช่นกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาดี โดยราคาสูงจะขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อส่งถึงปลายทางผู้รับ ทำให้มีผู้ลักลอบนำเข้าทำกันเป็นขบวนการ และที่ผ่านมาได้จับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่อง

    แต่เนื่องจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีอาณาบริเวณพื้นที่กว้างใหญ่ รวมทั้งมีช่องทางธรรมชาติ ที่ใช้หลีกเลี่ยงหลบด่านตรวจมากมาย ทำให้มีสินค้าเถื่อนหลุดรอดไปได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะขบวนการค้าพืชไร่เถื่อน จึงเน้นย้ำกำลังพลให้มีการเข้มงวดกวดขัน การกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

( CR.ภาพ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ร.29พล.ร.9 )