svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

สื่ออาเซียนปลื้ม "วัดพระแก้ว" ซึมซับวัฒนธรรม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ 10 รัชกาล

18 มิถุนายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตัวแทนสื่อมวลชนจาก 10 ชาติอาเซียนทัศนศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ชาติไทย ลงรายละเอียดประวัติพระแก้วมรกตยิบ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวปฏิบัติการ ล้างบางตุ๊กตุ๊กข้างวัดพระแก้วหลอกนักท่องเที่ยว

18 มิ.ย.2561 - หลังพิธีเปิดโครงการปฏิบัติการเยี่ยมเยือนเพื่อเรียนรู้ระหว่างสื่ออาเซียน (การท่องเที่ยวไทย-ลาว) โดยนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวแทนสื่อมวลชนเข้าร่วมโครงการ 10 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน สปป.ลาว เมียร์มา เวียดนาม กัมพูชาและจีน เดินทางไปทัศนศึกษาที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และพระบรมมหาราชวัง 


โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังบรรยายรายละเอียดว่าเป็นวัดสำหรับประกอบพระราชพิธีสำคัญโดยพระมหากษัตริย์ ที่คนไทยเคารพรักและเทิดทูน ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก นอกจากความสวยงามแล้วทางสำนักพระราชวังได้ตีพิมพ์เอกสารรายละเอียด และความเป็นมาของสถานที่เป็นภาษาต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย 


ตัวแทนสื่อมวลชนจากประเทศอาเซียนต่างให้ความสนใจ รับฟังสิ่งที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังอย่างตั้งใจ พร้อมกับจดบันทึกเพื่อนำเสนอเป็นข่าว, บทความข่าวในประเทศของตนเอง สำหรับประวัติพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดพระแก้ว เจ้าหน้าที่เล่าว่า เป็นพระพุทธคู่บ้านคู่เมืองของไทย รูปสกุลศิลปะก่อนเชียงแสนถึงศิลปะเชียงแสน หลักฐานที่ตรงกันระบุว่าพบครั้งแรก ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์วัดป่าญะ ตำบลเวียง เมืองเชียงรายในปี พ.ศ. 1977 ต่อมาฟ้าผ่าลงองค์พระเจดีย์จนพังทลายลง จึงพบพระพุทธรูปพอกปูนลงรักปิดทอง จึงได้นำไปไว้ในวิหาร ต่อมาปูนบริเวณพระนาสิกเกิดกระเทาะออก เห็นเป็นเนื้อมรกต จึงกระเทาะปูนออกทั้งองค์ เห็นเป็นเนื้อหยกสีมรกตทั้งองค์


สำหรับประวัติพระแก้วมรกตนั้นมีความเชื่อมโยงไปถึง สปป.ลาวด้วย ผู้สื่อข่าวลาว รายหนึ่ง กล่าวว่า ที่ประเทศลาวมีวัดพระแก้ว ที่เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตองค์เดียวกันนี้มากก่อน ปัจจุบันที่วัดพระแก้ว ที่ สปป.ลาว ยังหลงเหลือไว้เพียงฐานพระ โดยไม่มีองค์พระประดิษฐานอยู่


ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีสืบค้นข้อมูลพระแก้วมรกต อ้าวอิงจากวิกิพีเดีย ระบุประวัติหลังองค์พระประดิษฐานอยู่ที่เชียงรายว่า พระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งเชียงใหม่ทราบข่าวการค้นพบพระพุทธรูปนี้ จึงเชิญมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ แต่ช้างทรงพระแก้วมรกตกลับไม่เดินทางไปยังเชียงใหม่ แต่ไปทางลำปางหากช้างนั้นมีพระแก้วมรกตอยู่บนหลังช้าง เชียงใหม่เห็นว่าลำปางก็อยู่ในอาณาจักรล้านนาจึงนำไปไว้ที่วัดพระแก้วดอนเต้า ถึงสมัยพระเจ้าติโลกราช ได้เชิญพระแก้วมรกตมายังเชียงใหม่ สร้างปราสาทประดิษฐานไว้แต่ถูกฟ้าผ่าหลายครั้ง 


ครั้นเมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้าง (ปัจจุบันคือ สปป.ลาว) ซึ่งเป็นญาติกับราชวงศ์ล้านนามาครองเมืองเชียงใหม่ เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาเสด็จกลับหลวงพระบาง ก็เชิญพระแก้วมรกตไปด้วยพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์ แต่ทางเชียงใหม่ขอคืนก็ได้แต่พระพุทธสิหิงค์ 


เมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ก็เชิญพระแก้วมรกตลงมาด้วย ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวง พระองค์ได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบาง มาจากอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์  ในครั้งนั้นประดิษฐานไว้ที่วัดอรุณราชวราราม ต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรลงบุษบกในเรือพระที่นั่ง เสด็จข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงปัจจุบัน ส่วนพระบางได้คืนให้แก่ สปป.ลาว


จัดระเบียบวัดพระแก้ว 


ภายหลังจากที่ทัวร์จีนนิยมมาวัดพระแก้วจนทำให้คนไทยเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ว่าคนจีนเต็มวัดจนคนไทยไม่ได้มีโอกาสกราบพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จนพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้จัดระเบียบ ล่าสุดผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีได้มีโอกาสเข้าไปสักการะพระแก้วมรกต ในพระอุโบสถพบว่ามีการจัดโซนนั่งสักการะให้กับคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้คนไทยที่ตั้งใจไปกราบพระแก้วมรกตในวันนี้ได้มีที่นั้งสวดมนต์ และนั่งสมาธิอย่างเต็มที่ไม่ถูกรบกวนจากทัวร์ต่างชาติ


ล้างบางตุ๊กตุ๊กข้างวัดพระแก้วหลอกนักท่องเที่ยว 


นายธนพล คนขับรถตุ๊กตุ๊กและมัคคุเทศก์ ย่านสนามหลวงคือ 1 ในผู้ต้องหาคดีก่อความเดือดร้อน รับสารภาพสิ้นว่าหลอกลวงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ซื้อเส้นทางท่องเที่ยวกับเจ้าตัว โดยใช้ประโยคหวาดล้อมว่า "วัดปิด วังปิด" และจูงใจว่า "สถานที่ที่จะไปมีความแตกต่างขึ้น" เมื่อนักท่องเที่ยวตกลงก็จะแนะนำให้ไปซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ที่ตกลงกับทางร้านไว้แล้ว สินค้าที่แนะนำให้ซื้อไม่ว่าจะเป็นสูทหรือเครื่องประดับ ล้วนแต่มีราคาสูงแต่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่ง 1 ในร้านตัดสูทที่ผู้ต้องหานำนักท่องเที่ยวไปส่งคือ ร้านเจม แฟชั่น ที่ตั้งอยู่ถนนสุโขทัย 


วันนี้ทั้งตำรวจ เทศกิจ กรมการขนส่งทางบก สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย คือนายภานุพงศ์ กระจกเอี่ยม ที่บริเวณราชวรดิฐ นายธนพล กิตติเจริญสุข ที่ประตูช่องกุด และนายสุเทพ วงษ์กุหลาบ บริเวณวัดโพธิ์ ทั้ง 3 ให้การสารภาพ 


รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล บอกว่า กระบวนการนี้ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ถึงเวลาล้างบางแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีอีกต่อไป ฝากถึงร้านตัดสูท ร้านจิวเวลรี่ให้เตรียมตัวไว้ ตำรวจกำลังจะเข้าตรวจสอบ


ปฏิบัติการจับกุมกลุ่มกระบวนการเช่นนี้ทำมาแล้วกว่า 2 ปีแต่ก็ยังมีเล็ดลอดไปได้ หลังจากนี้เพื่อเป็นการป้องกัน ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แต่เบื้องต้นได้สั่งห้ามรถตุ๊กตุ๊กเข้ามาวิ่งภายในถนนรอบในสนามหลวงแล้ว


logoline