เปิดใจหนุ่มฮีโร่ ฝ่ากองเพลิงช่วยเด็ก

จากเหตุการณ์รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนพลิกคว่ำชนกับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 105 ถนนมิตรภาพ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อบ่าย วันที่ 12 มิถุนายน ส่งผลให้รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีหลายคนเข้าไปช่วยเหลืออุ้มเด็กน้อยวัย 1 และ 2 ขวบ ออกมาจากรถ รวมทั้งช่วยเหลือแม่ของเด็ก และคนขับรถออกมาได้ทัน ก่อนที่รถจะเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ซึ่งมีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์โพสลงในโลกโซเชียล จนมีผู้เข้าไปชื่นชมพลเมืองดีเป็นจำนวนมาก กระทั่งทางสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่าทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามชมข่าวนี้อย่างใกล้ชิด และประสานให้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศตามหาตัวพลเมืองดีเพื่อที่จะมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมนั้น

ล่าสุด วันที่14 มิ.ย. 61 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางจังหวัด ทราบเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ชื่นชมพลเมืองดี พร้อมกับให้ประกาศหาตัวเพื่อที่จะเชิญตัวเข้าพบ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เป็นขวัญกำลังใจนั้น ตนเองได้ประสานให้ทางนายอำเภอสีคิ้ว ช่วยติดต่อหาผู้ที่รู้จักพลเมืองดีว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีอยู่ทั้งหมด 4 รายได้แก่ 

1.นายประสิทธิ์ สาราบรรณ พนักงานขับรถ บริษัทซันกิควอลิตี้โปรดัคส์ จ.สมุทรปราการ (ในภาพอุ้มเด็ก) 2.นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี ซึ่งเข้าไปช่วยดึงแม่เด็กและถ่ายคลิปวิดีโอ 3.นางจิรัชญา ขอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และ 4.นายวิจิตร สืบสาย พนักงานโรงงานโคราชออโต้ผลิตสายไฟรถยนต์ อ.สิคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยขณะนี้ได้ส่งรายชื่อไปให้สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งอาจจะมีการประสานงานให้เข้าพบนายกรัฐมนตรีตามโอกาสที่เหมาะสม ส่วนทางจังหวัดนครราชสีมา จะรอให้พลเมืองดีทั้ง 4 คน เข้าพบนายกรัฐมนตรีก่อน หลังจากนั้นจะเชิญตัวมาเพื่อมอบขอบที่ระลึกให้ เป็นขวัญกำลังใจต่อไป

นายวิเชียรฯ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ จ.นครราชสีมานั้น มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตบนถนนเดือนละประมาณ 60 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 2 ราย ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สูงมาก แม้ว่าทางจังหวัด จะเพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจจับผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบว่าสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุยังคงสูงอยู่ ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากความประมาท และจิตสำนึกของผู้ขับขี่ยานพาหนะเอง จึงอยากวิงวอนให้ประชาชนได้มีจิตสำนึกในการขับขี่ยานพาหนะ เพื่อลดความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลงกว่านี้ กล่าว



ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริษัท ซันกิ ควอลิตี้ โปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 29/13 ม.3 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาครพบกับ นายจินดา ผาสุก ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลพัฒนาระบบ บริษัท ซันกิ ควอลิตี้ โปรดักส์ จำกัด โดยพาผู้สื่อข่าวไปพบกับพลเมืองดีรายนี้คือ นายประสิทธิ์ สารบรรณ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 207ม.9 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นพนักงานขับรถส่งสินค้าของบริษัทฯ



นายจินดาบอกว่า นายประสิทธิ์เป็นพนักงานที่อุปนิสัยดี อัธยาศัยใจคอดี เจอหน้ารุ่นพี่จะยกมือไหว้ตลอด โดยทำงานที่บริษัทนี้มา 2 ปีกว่าแล้วในตำแหน่งพนักงานขับรถ ซึ่งทางบริษัทนั้นทราบเรื่องของนายประสิทธิ์จากสื่อมวลชน และเมื่อนายประสิทธิ์กลับมาก็ได้มาเล่าเรื่องและรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งทางบริษัทนั้นรู้สึกภาคภูมิใจในการทำความดีต่อสังคมเป็นอย่างมาก โดยจะได้มีการประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติและมีรางวัลมอบให้ด้วย



ด้านหนุ่มฮีโร่นายประสิทธิ์ กล่าวเปิดใจด้วยความตื้นตันใจว่าวันเกิดเหตุขับรถบรรทุกหกล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาวหมายเลขทะเบียน 51-4362 กรุงเทพมหานคร ไปส่งของกับคนรถที่นครราชสีมา และขากลับมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงรถชนดังสนั่น เมื่อชะโงกหน้าไปดูเห็นคนนอนอยู่กลางถนน ตนจึงรีบจอดรถแล้วลงไปเห็นว่ามีพลเมืองดีคนอื่นช่วยคนที่เป็นแม่ออกมา ส่วนคนขับที่ถูกไฟลวกก็ช่วยกันดับไฟ แต่ในช่วงเวลาที่ตนจะเดินกลับมาที่รถนั้น ก็ได้ยินเสียงแม่ของเด็กตะโกนว่า ให้ช่วยเด็กด้วย มีเด็กติดอยู่ข้างในรถอีกคนหนึ่ง



"ช่วงนั้นไฟกำลังลุกไหม้จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยโดยไม่คิดว่าจะเป็นยังไงก็ช่างคิดเพียงแค่ว่าต้องเอาเด็กออกมาให้ได้และต้องให้เด็กปลอดภัยมากที่สุด ทำให้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วย ถ้าตัดสินใจช้าไปเพียงแค่ 5 วินาที เด็กจะเสียชีวิตอย่างแน่นอน ตอนที่ไปเจอสภาพรถไฟท่วมมายังท้ายเบาะนั้นเห็นเด็กกำลังตะเกียกตะกายอยู่แล้ว พอเข้าไปก็รีบเปิดประตูคว้าตัวเด็กมาเลย ซึ่งผมช่วยเด็กได้คนเดียว ส่วนที่เหลือออกมาได้ก่อนแล้ว จึงนับเป็นโชคดีที่ครอบครัวทั้ง 4 ชีวิตนั้น ปลอดภัยทั้งหมดความรู้สึกผมนั้นดีใจมากที่ได้ช่วยชีวิตคน"หนุ่มฮีโร่ เล่านาทีระทึก



สำหรับการทำความดีของนายประสิทธิ์ครั้งนี้สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่คนในบริษัทฯ เป็นอย่างมาก จนทุกคนอดใจไว้ไม่ไหว เพราะเมื่อเห็นนายประสิทธิ์กลับมาจากการส่งของและมีผู้สื่อข่าวมารอทำข่าวเชิดชูคุณงามความดีของนายประสิทธิ์ให้เป็นที่รู้จักของคนในสังคมนั้น พนักงานบริษัทต่างพากันออกมาคอยต้อนรับและปรบมือยินดีกันอย่างกึกก้อง