
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 มิถุนายน ที่บริเวณด้านหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ แถลงข่าวกรณีศาลไม่อนุญาตให้กรรมการเครือข่ายภาคประชาชน เข้าไปตรวจสอบและศึกษาข้อเท็จจริงในบริเวณศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ได้ทำหนังสือขอลงพื้นที่เพื่อการสำรวจเพื่อหาข้อสรุปในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
แฟ้มภาพ
นายบัณรส บัวคลี่ โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดแนวทางการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่และฟื้นฟูสภาพป่า จากกรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ ทำหนังสือขออนุญาตลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กับศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยกำหนดลงพื้นที่ในวันที่ 12 มิถุนายน เวลา 13.30 น. ทางศาลได้แจ้งกลับมาว่าอนุญาตให้คณะกรรมการบางคนเท่านั้นได้เข้าไปสำรวจพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็นคณะกรรมการในส่วนของหน่วยงานราชการและนักวิชาการเท่านั้น ส่วนคณะกรรมการภาคประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่สำรวจ ในวันนี้ทางเครือข่ายจึงยังไม่เข้าสำรวจพื้นที่
แฟ้มภาพ
กระนั้น หากได้รับอนุญาตให้เข้าเพียงครึ่งเดียวทางคณะกรรมการก็จะยังไม่เข้าสำรวจพื้นที่ในวันนี้ ทั้งนี้ต้องให้ศาลเข้าใจว่าคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมานั้น เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ โดยดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ที่คณะกรรมการต้องดำเนินการศึกษาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องศึกษาทั้งเอกสารและพื้นที่ เรื่องดังกล่าวนี้ทางคณะกรรมการในพื้นที่ต้องรายงานขึ้นไปยังคณะกรรมการอำนวยการส่วนกลาง ทางคณะกรรมการภาคประชาชนรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจฝ่ายงานธุรการศาลที่ใช้วิธีการเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การวางแผนของคณะกรรมการได้มีกรอบการทำงานไว้อย่างชัดเจน ขณะนี้คณะกรรมการพบอุปสรรคในการเข้าพื้นที่เพื่อทำสรุปการสำรวจข้อเท็จจริงทำให้กรอบการทำงานอาจจะต้องเลื่อนออกไป
แฟ้มภาพ
นายบัณรส กล่าวต่ออีกว่า ความคืบหน้าล่าสุด ได้รับแจ้งจากนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้แจ้งว่าได้รับการประสานงานจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ถึงการส่งมอบงานในวันที่ 18 มิถุนายน 2561 นี้ ยืนยันว่าไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด ในกรณีนี้ทางเครือข่ายจะต้องกลับมาพูดคุยกับอีกครั้งว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร
แฟ้มภาพ
ประกอบกับขณะนี้ได้มีครอบครัวของข้าราชการเข้าไปอยู่อาศัยในอาคารชุด ซึ่งได้สอบถามไปยังศาลแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยทางศาลยังไม่มีแผนการดำเนินการกับครอบครัวข้าราชการที่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในอาคาร ถือเป็นการเพิกเฉยต่อคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่ระบุห้ามไม่ให้มีบุคคลเข้าไปอยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว ประกอบกับนายกรัฐมนตรีได้ประกาศผ่านสื่อว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเข้าไปศึกษาข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอแผนการดำเนินการกับบ้านพักข้าราชการตุลาการ แต่คณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ได้ เนื่องจากฝ่ายงานธุรกิจเพิกเฉยต่อคำสั่งนายกรัฐมนตรี
ด้าน รศ.สุจิตร พิจิตรากูล ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา กล่าวว่า พื้นที่ก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากสร้างอยู่บนพื้นที่ลาดชันเกินกว่าร้อยละ 30 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่ควรที่จะมีกิจกรรมของมนุษย์เข้าไปอยู่ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการพังทลาย การเข้าไปวันนี้เพื่อเข้าไปศึกษาพื้นที่และเขียนรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าวว่ามีความเสี่ยงอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ในการมีสิ่งปลูกสร้างในบริเวณดังกล่าว แต่ในวันนี้ทางคณะกรรมการจะยังไม่เข้าไปสำรวจเนื่องจากว่าทางศาลอนุญาตให้เข้าเพียงบางคนเท่านั้น
แฟ้มภาพ
ทั้งนี้ การก่อสร้างบ้านพักข้าราชการในบริเวณดังกล่าวนี้ ถือเป็นทัศนอุอาจ ประกอบกับพื้นที่ก่อสร้างอยู่บนจุดที่มีความลาดชันสูง มีกฎหมายบังคับชัดเจน แต่หน่วยงานราชการกลับเข้าไปดำเนินการเองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีกลุ่มแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักอยู่ในบริเวณดังกล่าว และมีรถสายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เข้ามาอำนวยความสะดวกเรียบร้อย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้เดินถ่ายทะเบียนรถของผู้สื่อข่าวทุกคนที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวไว้ด้วย