ในปัจจุบันเราทราบกันดีว่ายิ่งเทคโนโลยีพัฒนาเร็วขึ้นเท่าไหร่ เรื่องราวในอดีตก็อาจจะยิ่งถูกลบเลือนออกไปจากความทรงจำเร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ คุณใหม่-สิริกิติยา เจนเซน เล็งเห็นความสำคัญของทั้ง 2 อย่างนี้ และนำมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาทำให้ประวัติศาสตร์ เป็นที่น่าสนใจ และแพร่หลายออกไปเป็นวงกว้าง จึงเกิดเป็นนิทรรศการที่ชื่อว่า"วังน่านิมิต"
เรื่องราวของ "วังหน้า" ที่จริงแล้วทางกรมศิลปากรเคยศึกษาค้นคว้าเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่พอเมื่อ คุณใหม่-สิริกิติยา เจนเซน เข้ามารับราชการในตำแหน่งนักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการกลุ่มประวัติศาสตร์สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ช่วยราชการที่สำนักสถาปัตยกรรมกรมศิลปากร ก็ได้ให้ความสนใจถึงหัวข้อนี้อีกหนึ่งครั้งโดยมีความคิดที่ว่า "เราควรจะนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ ให้แพร่หลายออกไปด้วยกลวิธีที่ทันสมัย เพื่อให้คนรุ่นใหม่สนใจและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
"วังน่านิมิต" ที่ถอดความหมายออกได้เป็น 2 คำ "วังน่า" ที่สะกดแบบไม่มี ห คือความตั้งใจที่จะนำเอาคำโบราณดั้งเดิมกลับมาใช้ ส่วน คำว่า "นิมิต" ก็คือการทำสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ในปัจจุบันนำมาทำให้ทุกคนเห็นภาพและเข้าใจตรงกัน
ซึ่งนิทรรศการนี้จะทำให้เราได้ทราบถึงขอบเขต ของวังหน้าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งปัจจุบันก็คือสถานที่ ที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่าง เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โรงละครแห่งชาติเป็นต้น ที่ถ่ายทอดผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Interactive Map ที่แสดงถึง ผังของวังหน้าในอดีตสมัยรัชกาลที่ 5 ซ้อนทับกับผังเกาะรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน คือทุกสิ่งทุกอย่างทางผู้จัดพยายามที่จะผนวกเรื่องราวในอดีตให้ผสานกับยุคปัจจุบัน
ถัดลึกเข้ามาด้านใน เป็นส่วนจัดแสดงที่ขยายความเกี่ยวกับพระที่นั่งคชกรรมประเวศ และพลับพลาสูงให้เข้าใจแจ่มชัดมากขึ้น โดยภาพเต็มๆของ "พลับพลาสูง" ก็เป็นภาพที่คุณใหม่เจอจากหนังสือ จนสืบไปถึงต้นตอที่ประเทศเยอรมนี จึงได้ติดต่อขอซื้อแล้วนำมาเป็นแบบในการจัดแสดง
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งกันไว้เป็นห้องข้อมูล หรือ Reading Room จัดแสดงเอกสารอ้างอิง ตำรา ภาพถ่ายโบราณ ที่เกี่ยวกับวังหน้าในแง่มุมต่างๆ การศึกษา สถาปัตยกรรม ในเชิงศาสนา ความเชื่อ ให้ผู้ที่เข้าชมได้ศึกษาเพิ่มเติมอีกด้วย
คุณใหม่ยังทิ้งท้ายเกี่ยวกับเรื่องการอนุรักษ์ไว้ว่า "ถ้าเราช่วยกันอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างที่จับต้องได้ไว้ได้แล้ว ก็ต้องหันมาโฟกัสการอนุรักษ์ความรู้สึกในอดีตไว้ด้วย เพราะไม่ฉะนั้นแล้ว เราก็จะไม่รู้ความหมายของการที่มีสิ่งปลูกสร้างโบราณที่มีอยู่เต็มไปหมดนั้นมีไว้เพื่ออะไร"
"วังน่านิมิต" ภาคแรกจะจัดแสดงที่หอศิลป์ฯ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 10-27 มิถุนายนนี้
ส่วนภาคที่ 2 เป็นการจัดแสดงข้อมูลที่ใช้ในการสร้างงานนิทรรศการ รวมถึงข้อมูลวังหน้าที่น่าสนใจต่างๆ รวมไว้ในช่องทางออนไลน์ ให้ผู้ที่สนใจเข้าไปสืบค้นได้ที่ www.wangnaproject.space
ส่วนภาคที่ 3 คือการยกนิทรรศการ วังน่านิมิต ที่เสร็จสิ้นจากการจัดที่หอศิลป์ฯ กรุงเทพฯ แล้ว ไปจัดแสดงอีกครั้งบนพื้นที่จริง คือที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในเดือนธันวาคม
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่
facebook fanpage @onedaywithfamframe
IG : famframe