กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่าขยะทะเลที่พบมากที่สุดอันดับ 1 คือ "ถุงพลาสติก" รองลงมาคือ หลอดพลาสติก ฝาพลาสติก นอกจากนั้นขยะประเภทภาชนะบรรจุอาหาร รวมทั้ง กล่องโฟมด้วย
ตรงนี้มีแมงกะพรุนที่ถูกนำพัดขึ้นมา เกยอยู่ที่ชายหาด มันตายแล้ว สภาพที่เห็น ถ้าเปรียบเทียบกับถุงพลาสติก มันคล้ายกันมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุการตายของเต่าทะเลจำนวนหนึ่ง เพราะเข้าใจว่าถุงพลาสติกคืออาหารของพวกมัน
"อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์" นักวิชาการด้านทะเล และสิ่งแวดล้อม บอกว่าคนไทยทิ้งขยะทะเลมากถึง 1 แสนตันต่อปี ในแต่ละปีมีเต่าทะเลที่ต้องตายเพราะพลาสติก 300 ตัว รวมทั้งโลมา กับปลาวาฬอีก 150-160 ตัวที่ต้องตายเพราะ กินพลาสติก
ขยะทะเลกลายเป็น วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกังวลรองจากก๊าซเรือนกระจกที่สร้างสภาวะโลกร้อน เพราะหากปริมาณการทิ้งขยะลงทะเลยังเป็นอยู่เช่นนี้ ในปี 2050 พลาสติกจะมีจำนวนมากกว่าปลาในมหาสมุทร
ผลกระทบไม่เพียงเกิดกับสัตว์ทะเลเท่านั้น แต่กำลังแทรกซึมเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ อาจารย์ธรบอกว่า เมื่อขยะพลาสติกแตกตัวเป็นไมโครพลาสติกเม็ดเล็กๆ ปลาเล็ก ปลาใหญ่ ในทะเล ก็จะต้องกินเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานวิจัยพบว่า เริ่มพบโมโครพลาสติกปนเปื่อนในอาหารทะเลที่ได้จากอ่าวไทย ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของโมรโครพลาสติกที่เกินค่ามาตรฐานโลก
องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติสากล กรีนพีซ ประจำประเทศไทย ระบุว่าทุกๆ 1 นาที ขวดน้ำพลาสติกจำนวน 1 ล้านขวด จะถูกซื้อใช้โดยคนทั้งโลก และทุกๆ ปีเราใช้ถุงพลาสติกกันถึง มากถึง 5 ล้านล้านใบ ร้อยละ 50 ของพลาสติกที่ใช้ ล้วนเป็นพลาสติกที่ใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง
ทุกๆ ปี มีขยะพลาสติมากกว่า 13 ล้านตันไหลลงสู่มหาสมุทร ได้คุกคามชีวิตปะการังและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด พลาสติกที่ไหลลงสู่ทะเลเหล่านี้สามารถเดินทางรอบโลกได้ถึงสี่รอบภายในปีเดียว และพวกมันจะอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรถึง 1,000 ปีก่อนที่จะย่อยสลาย
เพราะว่าเป็นประเทศที่แนวชายฝั่งยาว จึงเป็นสาเหตุให้ไทยติดอันดับประเทศที่ทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุด ผู้อำนวยการกรีนพีซประจำประเทศไทย บอกว่าพฤติกรรมการใช้พลาสติกอย่างฟุ่มเฟือยของคนไทยก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะทะเลเพิ่มขึ้น
ปัญหาขยะล้นทะเลไทย สะท้อนให้เห็นว่า บ้านเรายังขาดการจัดการขยะอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สวนทางกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและการเติบโตของเศรษฐกิจ
ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ เผยว่า ปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศจา กองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีขยะมูลฝอยรวม 26.77 ล้านตัน แต่ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกต้องเพียง 7.2 ล้านตัน มีขยะมูลฝอยที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อยู่ที่ 5.1 ล้านตัน ในขณะที่ขยะมูลฝอยจำนวน 6.9 ล้านตันไม่ได้นำไปกำจัดอย่างถูกต้อง ส่วนอีก 7.6 ล้านตันคือปริมาณขยะมูลฝอยที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ จะเห็นได้ว่าเกินครึ่งของขยะมูลฝอยในประเทศไทยไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี
เราทุกคน สามารถเลิกเลิกขยะพลาสติกได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ รัฐบาลออกมาตรการบางอย่างเพื่อกำจัดการใช้พลาสติก เช่น เลิกใช้หลอดพลาสติก พกถุงผ้าไปทุกครั้งไปช้อปปิ้ง นำขวดน้ำส่วนตัวพกไปที่ทำงาน งดรับช้อนส้อมพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อ และคิดไว้เสมอว่า "อะไรที่ใช้ซ้ำไม่ได้ ก็ให้ปฎิเสธไป" กรีนพีซระบุในที่สุด