เส้นทางเงินทอนวัด ล็อต4
การสอบสวนทุจริตงบอุดหนุนพระพุทธศาสนา ของสำนักงานพระพุทธศาสนา มาถึงล็อตที่ 4 แล้ว ผู้กระทำผิดเป็น "พระกลุ่มใหม่" ร่วมกับเจ้าหน้าที่พศ. เรียกเงินทอนจากงบ 130 ล้าน กว่า 80% ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
หลังจากปิดสำนวนคดีเงินทอนวัดล็อต 3 เมื่อเดือนเมษายน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. มอบหมาย ให้พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผบก.ปปป. เปิดปฏิบัติการคดีเงินทอนวัดล็อต 4 ในต้นเดือนพฤษภาคม ทันที
ร่วม 1 เดือนที่คณะพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ ติดตามเส้นทางเงิน ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โอนเงินไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ วงเงิน 120-130 ล้านบาท โดยพบว่าโอนมากที่สุดในช่วงปี 2553-2557 และปี 2558-2559 มีการโอนแต่ไม่มากเท่าช่วงแรก
ข้อมูลที่ชุดทำงานได้ และประมวลขึ้นรูปเป็นสำนวนคดีเงินทอนวัดล็อต 4 คือ เริ่มจากมีพระกลุ่มหนึ่ง แจ้ง กับพศ. ว่า มีวัดตามต่างจังหวัด ต้องการงบประมาณบูรณะปฏิสังขรณ์ จากนั้น พศ.จะโอนเงิน 2 - 3 ล้านบาท ไปยังวัดที่แจ้งมา เมื่องบมาถึงวัด พระกลุ่มเดิม จะแจ้งให้เจ้าอาวาสคืนเงิน โดยอ้างว่าแบ่งไปบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งอื่นๆ ที่มีความเดือดร้อน เหลือเงินให้วัดจริงๆ หลักแสนบาท เท่านั้น
ปปป.เรียก "พระกลุ่มใหม่" ว่าเป็นเซนเตอร์เงินทอนวัดล็อต 4 คือมีหน้าที่ผ่านเงิน จากพศ. ไปวัดต่างจังหวัด จากนั้นจะเรียกเงินกลับคืนมาคิดเป็น 80% ของงบที่โอนไป ส่วนเงินทอน จะส่งคือเจ้าหน้าที่ พศ.ชุด อดีตผอ.ช่วงปี 2553-2559 บางส่วนนำไปบูรณะ วัดของพระกลุ่มเซนเตอร์เงินทอนวัด ถือว่า เป็นการใช้งบผิดวัตถุประสงค์
จากการสอบสวนวัด กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ พบความผิดปกติแล้ว 26 วัด โดย ปปป.ยังสอบสวนขยายผลต่อไป เนื่องจากมีเจ้าอาวาสวัด ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า นอกจากวัดของตัวเองแล้วยังมีวัดอื่นๆ ในละแวกเดียวกันได้รับงบประมาณ และมีการจ่ายเงินทอนกลับไป ทั้งนี้ คาดว่าปลายสัปดาห์หน้า จะสรุปจำนวนวัด และความเสียหายทั้งหมดได้