svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"

26 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป ที่เดิมเรียกว่า European Cup และปัจจุบันคือ UEFA Champions League มาแล้ว 5 ครั้ง ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ทั้ง 5 ครั้ง..คู่แข่งในรอบชิงใส่"ชุดขาว"

ครั้งแรกในปี 1977 โดยลิเวอร์พูลเข้าชิงกับ Borussia Mnchengladbach ยอดทีมจากเยอรมันตะวันตก(ในขณะนั้น) โดยคู่แข่งใส่ชุดสีขาว และ"หงส์แดง"สวมชุดแดง หงส์แดงชนะ 3-1 คว้าแชมป์ครั้งแรกจากการทำประตูของ Terry McDermott ในนาทีที่ 28 Tommy Smith นาทีที่ี 64 และ Phil Neal สังหารจุดโทษนาทีที่ 82

ปีถัดมา 1988 "หงส์แดง"ยังสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงฯและเป็นการป้องกันแชมป์ โดยพบ"ม้ามืด" Club Brugge ทีมเล็กๆจากเบลเยี่ยมที่เอาชนะ Juventus มาในรอบรอง และนักเตะใหม่...Kenny Dalglish ชิพบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูจากเบลเยี่ยมเข้าไปในนาทีที่ 64 คว้าแชมป์ครั้งที่ 2

มีสถิติไม่น่าเชื่อคือ Jimmy Case เป็นรองดาวซัลโวถ้วยนี้โดยยิงได้ 4 ประตู ส่วนดาวซัลโวคือ Allan Simonsen นักเตะยอดเยี่ยมยุโรปจาก Borussia Mnchengladbach ที่ทำได้ 5 ประตู หายไป 3 ปี ลิเวอร์พูลกลับมาอีกครั้งในปี 1981 คราวนี้ คู่ชิงคือ"ราชันชุดขาว" Real Madrid ลิเวอร์พูลเข้าชิงโดยชนะ Bayern Munich ในรอบรองด้วยกฎ Away Goal เมื่อเสมอในบ้าน 0-0 และไปเสมอที่มิวนิก 1-1 ส่วน"ราชันชุดขาว"เข้าชิงโดยชนะ Internazionale จากอิตาลีด้วยประตูดีกว่าเมื่อชนะในบ้าน 2-0 และแพ้ที่มิลาน 0-1 วันที่27 พฤษภาคม 1981 หงส์แดง คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 เมื่อ Alan Kennedy ยิงประตูโทนนาทีที่ 82 ชนะพวกชุดขาว...เป็นหนที่ 3

แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"



3 ปีต่อมา ในวันที่ 30 พฤษภาคม 1984 หงส์แดง เข้าชิง European Cup อีกครั้งกับ AS Roma ที่ Stadio Olimpico ในกรุงโรม ต่อหน้าผู้ชม 69,693 และ Phil Neal ทำประตูให้หงส์แดงขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 13 ก่อนที่ Roberto Pruzzo จะตีเสมอในนาทีที่ 42 และต่อเวลาก็ยังทำประตูกันไม่ได้ ..ต้องตัดสินโดยการดวลจุดโทษ และหงส์แดงค้วาแชมป์เมื่อดวลจุดโทษชนะ 4-2 โดยลิเวอร์พูลยิงก่อนและ Stephen Nicol พลาดเป็นคนแรกแต่หลังจากนั้น ผู้เล่นหงส์แดงอีก 4 คนยิงได้หมด ทั้ง Phil Neal , Graeme Souness , Ian Rush และ Alan Kennedy ส่วนโรม่า ยิงเข้า 2 คน คนที่ 5 จึงไม่ต้องยิง


ห่างหายไปนาน และ European Cup เปลี่ยนชื่อเป็น UEFA Champions League ปี 2005 หงส์แดงเข้าชิงถ้วยนี้กับยอดทีมจากอิตาลี AC Milan ในนัดชิง ทีมจากอิตาลีได้สวม"ชุดขาว" และขึ้นนำในครึ่งแรก 3-0 จาก Paolo Maldini ในนาทีแรก ก่อนที่ Hernan Crespo เหมาอีก 2 ประตูในนาทีที่ 39 และ 44


ใครๆก็มองว่า"จบแล้ว"...แต่ครึ่งหลัง หงส์แดงใช้เวลา 6 นาที ทำ 3 ประตูจาก "กัปตัน" Steven Gerrard ในนาทีที่ 54 ; Vladimr micer ในนาทีที่ 56 และ Xabier "Xabi" Alonso ในนาทีที่ 60 เกมต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ..อีกครั้ง


แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"




มิลานยิงก่อนและ 2 คนแรกพลาด ..ขณะที่ 4 คนแรกของหงส์แดง คือ Dietmar Hamann , Djibril Ciss ,John Arne Riise และ Vladimr micer ยิงได้ 3 ประตู โดย John Arne Riise คือผู้ยิงพลาด ขณะที่ 4 คนแรกของมิลาน หลังจาก 2 คนแรกพลาด ก็มาถึงคนสุดท้ายคือ Andriy Shevchenko ที่หากยิงเข้าก็จะต้องให้ลิเวอร์พูลคนที่ 5 ตัดสิน แต่ Andriy Shevchenko ถูก Jerzy Dudek นายทวารชาวโปลเซฟได้..หงส์แดงคว้าแชมป์ครั้งที่ 5 และเป็นการชนะพวกชุดขาวทั้งหมด


ปีนี้ UEFA Champions League จะชิงชนะเลิศในวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ NSC Olimpiyskiy Stadium ในเมือง Kiev ประเทศยูเครน..หงส์แดงพบราชันชุดขาว..ไม่ต้องจับสลาก เพราะทั้ง 2 ทีมใส่เสื้อคนละสีและจะเป็นอีกครั้งที่หงส์แดงชิงชนะเลิศกับพวกชุดขาว..


แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"

แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"

แชมป์ยุโรป....สถิติหงส์ชนะพวก"ชุดขาว"

logoline