เมื่อเวลา 00.30น. วันที่ 26 พฤษภาคม นายฉัตรชัย สินธุสิงห์ อายุ 48 ปี เจ้าของศูนย์บริการรถยนต์ ย่านพระราม3 นำเอกสารใบสั่ง พร้อมรถยนต์ ยี่ห้อ Nissan Cube สีเหลือง ทะเบียน ฆจ6579 กรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.กรัณฑ์วานิษฐ์ สมจันทร์ รอง สว.(สอบสวน)สน.ปทุมวัน หลังจากพบว่ารถคันดังกล่าวมีการสวมทะเบียนหมายเลขเดียวกับรถของตนเอง และได้ก่อเหตุทำผิดกฎจราจรหลายแห่ง ทำให้มีใบสั่งส่งมาที่บ้านตนหลายใบ
นายฉัตรชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านตนได้รับใบสั่งตามความผิดจราจรถูกส่งมาที่บ้านหลายใบ ซึ่งในใบสั่งระบุเป็นรถยี่ห้อ Nissan Cube สีเหลือง ทะเบียน ฆจ6579 ซึ่งเป็นของ น.ส.จันทร์เพ็ญ ปัญญารุ่งเรือง อายุ 46ปี ภรรยา ตอนแรกคิดว่าเด็กที่บ้านขับรถไปกระทำความผิด จึงได้สอบถามและว่ากล่าว แต่เด็กที่บ้านปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ขับรถไปตามสถานที่ดังกล่าว ในเวลาที่ระบุตามใบสั่ง จึงเริ่มสงสัยว่ารถที่อยู่ในใบสั่งจะไม่ใช่รถต้องตนเอง จึงได้นำใบสั่งที่ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางโพงพาง จากนั้นก็จอดรถของตนเองไว้ที่บ้าน และประสานให้เพื่อนๆในกลุ่มบิ๊กไบค์ช่วยกันสอดส่องหากพบรถที่ก่อเหตุให้แจ้งตนเนื่องจากรถคันดังกล่าวมักจะกระทำความผิดในจุดเดิมๆหรือใกล้เคียงกัน จนกระทั่งวันนี้เวลาประมาณ13.12น. มีเพื่อนแจ้งตนมาว่าพบรถเป้าหมายกำลังวิ่งอยู่แถวสะพานเหลือง ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน จึงได้ให้คนตามไป และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงป้อมจามจุรีสกัดรถให้หยุด
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ขับรถคันดังกล่าวคือ จ.ส.ต รายหนึ่งที่อยู่ในสังกัด บก.ปอท.ซึ่งรถคันดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับรถของตนเองมาก ทะเบียนที่ใช้ก็ตรงกัน ต่างกันที่ซันรูป และขอบล้อ จึงได้ให้เจ้าหน้าตำรวจนำตัวมา สน.ปทุมวัน โดย จ.ส.ต. พยายามนำเอกสารมายืนยันว่ารถนั้นเป็นของกลางที่ยึดมาได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และให้ผู้ใหญ่ระดับ รอง ผกก.มาเจรจากับตน แต่ตนไม่ยอมเพราะเห็นว่าเป็นเจ้าหน้ารัฐเอารถของกลางมาขับได้อย่างไร แถมยังสวมสิทธิสวมทะเบียนรถของประชาชนทั่วไปอีก ที่ผ่านมาตนโดนใบสั่งอาจจะไม่ได้เดือนร้อนอะไรมากนัก แต่หากมีใครนำรถคันดังกล่าวไปไปขนยาเสพติด หรือกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับคดีตนไม่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาหรือนอกจากนี้ยังผิดหวังกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดตั้งแต่บ่ายโมง แต่จนถึงเที่ยงคืน ยังไม่ยอมรับแจ้งความ จนต้องขอให้สื่อมาช่วยเสนอข่าวจึงยอมลงบันทึกประจำวันให้
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน จ.ส.ต. คนดังกล่าวยังไม่ได้ชี้แจง หรือบอกสาเหตุที่นำทะเบียนมาสวมรถคันดังกล่าว เพียงแค่ยืนยันว่าเป็นรถของกลางที่ยึดมาได้ ส่วนจะได้มาจากการจับกุม หรือจับกุมมาพร้อมทะเบียนดังกล่าวหรือไม่นั้นคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพราะตนก็ทำได้เพียงแค่มาแจ้งความดำเนินคดีตามสิทธิของตนเท่านั้น
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และได้นัดนายฉัตรชัย มาสอบปากคำอีกครั้ง วันนี้(26 พ.ค.)ในเวลา 11.00น. ที่ สน.ปทุมวัน