ตร. ย้ำ ดำเนินคดีม็อบอยากเลือกตั้งย้อนหลังรายบุคคล

พลตรี ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมาตรการดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่า คสช. เข้าใจว่ากลุ่มดังกล่าวต้องการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงมีแผนรองรับอยู่แล้ว ป้องกันผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ หรือความรุนแรง ทั้งนี้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ไม่กระทบกระทั่ง หรือปลุกเร้าให้เกิดความเกลียดชัง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่กระทบต่อประชาชนทั่วไป การจัดกิจกรรมต้องถูกต้องตามกฎหมายและไม่ขัดคำสั่ง คสช. โดยเจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมายปกติในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย ใช้ตำรวจเป็นกำลังหลัก พร้อมระบุทุกฝ่ายกำลังดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมปการเลือกตั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามกรอบรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ประชาชนได้ลงประชามติ


ส่วนการดำเนินการของ คสช. หลังจากนี้ คือ ทำหน้าที่ประสานงานด้านความมั่นคงและการข่าวเท่านั้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตอบรับข้อเสนอที่กลุ่มคนอยากเลือกทั้งหมด ขอมาปราศรัยก่อนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเวลา 12.00 น. แต่หากส่งตัวแทนมา ก็พร้อมพิจารณา

ด้าน พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ใช้ตำรวจ 20 กองร้อย หรือราว 3,000 นาย ดูแลการชุมนุม ส่วนการส่งตัวแทนผู้ชุมนุม เข้ายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น เห็นว่า จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ไม่ไปกระทบสิทธิเสรีภาพผู้อื่น ซึ่งผู้ชุมนุมต้องคำนึงถึงผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้ส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมากด้วย และการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกมานอกรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แล้ว ก็ถือว่ามีความผิดชัดเจน ฐานขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 โดยในอนาคตเจ้าหน้าที่จะไล่ดำเนินคดี บังคับใช้กฎหมายภายหลัง ซึ่งไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นการใช้กฎหมายปกติ เนื่องจากศาลปกครองยกคำร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้นยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ริดรอนสิทธิเสรีภาพ ตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558


ทั้งนี้ตำรวจจะดำเนินคดีกับ 5 แกนนำ ประกอบด้วย
นายรังสิมันต์ โรม
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์
นายเอกชัย หังส์กังวาน
นางสาวปิยรัตน์ จงเทพ และ
นางสาวณัฏฐา มหัทธนา

หลังจากที่ คสช. เข้าแจ้งความกับ สน. ชนะสงคราม ข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ใช้หลักนิติศาสตร์อย่างเฉียบขาด แต่จะใช้หลักรัฐศาสตร์ควบคู่ด้วย เน้นการเจรจาเป็นหลัก ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด


รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังบอกด้วยว่า การที่ตำรวจต้องดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมทั้งหมด เนื่องจากคำขออนุญาตจัดการชุมนัดขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 แม้ว่าผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม เคยอนุญาต แต่เนื่องจากมีการเพิ่มกิจกรรมทางการเมือง ทำให้ต้องยกเลิกการให้อนุญาตไป ดังนั้นผู้ชุมนุมจะนำมาใช้กล่าวอ้างไม่ได้ และขอให้สื่อมวลชน ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องสวมปลอกแขน ที่ได้รับจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เท่านั้น