บ้านคาชวนเที่ยวน้ำตกวังครก หลังเพิ่งค้นพบและกำลังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี พร้อมด้วย นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีและนายวายุกฤช ศรีสุนนท์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าวังครกพร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าสำรวจพื้นที่ป่าไม้ หลังมีการค้นพบน้ำตกแห่งใหม่ที่มีต้นน้ำมาจากยอดเขาวังครก จึงได้ตั้งชื่อว่าน้ำตกวังครกตามชื่อของหมู่บ้านซึ่งสภาพของน้ำตกดังกล่าวนั้นมีน้ำไหลตลอดทั้งปีพร้อมกับเดินเท้าขึ้นไปสู่ยอดเขา ภายในหน่วยพิทักษ์ป่าวังครก บริเวณหมู่ที่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าเต็งรัง มีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดขึ้นอยู่ตามธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์เพื่อทำการยิงลูกไม้แทนการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับป่าสมบูรณ์แห่งนี้และทางอำเภอบ้านคาได้เตรียมสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งรวมทั้งจัดงบประมาณลงมาพัฒนาปรับปรุงเส้นทางการเดินทาง และพื้นที่บริเวณโดยรอบ เพื่อเตรียมพัฒนาส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่อีกแห่งของจังหวัดราชบุรี

นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายอำเภอบ้านคา เปิดเผยว่า วันนี้ได้พามาดูน้ำตกวังครกซึ่งเป็นน้ำตกสายแร่ ตั้งอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่าวังครก อยู่ห่างจากอ.บ้านคาเพียง 6 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีสภาพสวยงาม ซึ่งจะได้เตรียมปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ใครที่มาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้ทางพื้นที่ยังมีการจัดกิจกรรมไปยิงหนังสติ๊กปล่อยพันธุ์ลูกไม้ป่าเพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าและการทำโป่งเทียมให้สัตว์ป่า อนาคตจะต้องมีการดำเนินการปรับปรุงเส้นทาง ป้ายประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนอย่างสะดวกและเกิดความปลอดภัย

ด้านนายวายุกฤช ศรีสุนนท์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าวังครก เปิดเผยว่า เนื่องจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีเมื่อประมาณปี พ.ศ.2556 ได้มาจัดตั้งจุดสกัดวังครก ต่อมาได้ตั้งเป็นหน่วยพิทักษ์ป่าวังครกขึ้น สาเหตุที่เลือกที่เลือกตั้งจุดนี้คือ จะต้องมีน้ำ อย่างสภาพน้ำที่เห็นจะเป็นน้ำแร่ที่ไหลมาตามลำธารเล็กๆ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ได้เปิดพื้นที่ดูแต่ต่อมาได้เข้าไปสำรวจอย่างจริงจังก็พบว่าเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปีจึงคิดที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาพักผ่อนได้ ที่ผ่านมาได้พยายามสร้างฝายชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ ด้านบนของลำห้วยทำให้น้ำสามารถอยู่ได้ตลอดปี โดยสภาพผืนป่าที่นี่ยังคงมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีทั้งพันธุ์พืช ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นด้านบนจะเป็นป่าดงดิบ มีความสูงประมาณ 1,055 เมตร พื้นที่บริเวณนี้จะมีหุบเขาอยู่สองฝั่ง สภาพน้ำแห่งนี้จะมาจากลูกเขาจากป่าที่รกทึบเก็บน้ำไว้ทางด้านบนไหลลงลำห้วยหลายสายมาสู่ลำห้วยใหญ่ จึงเรียกชื่อน้ำตกแห่งนี้ตามหน่วยงานและตามชาวบ้านเรียกกันว่า "น้ำตกวังครก"

ส่วนใหญ่จะมีเยาวชน ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จะเข้ามาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เดินป่า และยิงลูกไม้ป่า เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้คงความสมบูรณ์ที่หน่วยจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ 8 นาย คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับพื้นที่น้ำตกแห่งนี้เป็นแนวเขตสัมปทานเหมืองแร่ดีบุกเก่า โดยสภาพน้ำที่มีลักษณะสีขาวนั้น เนื่องจากจะมีเม็ดแร่ที่มีลักษณะขาวขุ่นที่เรียกเวสปาร์ และผสมกับน้ำในลำห้วยก็เลยกลายเป็นขาวออกสีขุ่น เป็นน้ำกินได้ที่อื่นจะมีสภาพใสกว่านี้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนจะได้อาบน้ำแร่ของน้ำตกแห่งนี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเข้าไปสัมผัสธรรมชาติพักผ่อนช่วงวันหยุดสามารถใช้เส้นทางจากราชบุรีมุ่งหน้าผ่านถนนสายบ้านคา ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าวังครกใช้ระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร แต่หากมาจากกรุงเทพฯใช้ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร