svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"วัฒนา" โล่ง ศาลให้ประกัน 5 ล้าน คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทรฯ

09 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลฎีกานักการเมือง อนุญาตปล่อยตัว วัฒนา เมืองสุข คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรฯ โดยมีหลักประกันเป็นจำนวน 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ

เวลา 14.30 น. ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์ของนายวัฒนา จำเลยที่ 1 และนายพรพรหม จำเลยที่ 3 แล้ว อนุญาตให้ทั้งสองประกันตัวไปโดยตีราคาประกันนายวัฒนา 5 ล้านบาท และนายพรพรหม 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล



ส่วน บจก.เพรซิเดนท์ฯ จำเลยที่ 8 และ บจก.ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำเลยที่ 9 นั้น เป็นการยื่นฟ้องนิติบุคคลที่เป็นบริษัท ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกัน ส่วนที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. เป็นการนัดให้อัยการโจทก์ฟังผลการประทับฟ้อง โดยที่ในวันดังกล่าวตัวจำเลยยังไม่ต้องเดินทางมาศาล ซึ่งหากวันดังกล่าวศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ประทับฟ้องของอัยการไว้พิจารณาพิพากษาแล้ว ก็จะกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยต่อไป




โดยในวันนั้นจำเลยที่ถูกฟ้องจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาลเป็นครั้งแรก และหลังจากที่ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นทางการแล้ว ประธานศาลฎีกาก็จะกำหนดวันนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ขณะนี้มีทั้งหมด 176 คน เพื่อลงคะแนนลับเลือกผู้พิพากษาและผู้พิพากษาอาวุโสระดับชั้นตั้งแต่ศาลฎีกาขึ้นไป 9 คน เป็นองค์คณะรับผิดชอบคดีนี้ต่อไป




"นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหา 3 ราย ที่ไม่มาพบอัยการในวันนี้ (นายมานะ จำเลยที่ 2, น.ส.กรองทอง จำเลยที่ 6 และ น.ส.รุ่งเรือง จำเลยที่ 7) อัยการมองว่ามีการประวิงเวลา เราจะดำเนินการตามขั้นตอน คือเมื่อฟ้องแล้วศาลฎีกาฯ ก็จะแจ้งหมายให้จำเลยทราบ แต่หากจำเลยยังไม่มาก็จะมีกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งอาจถึงขั้นออกหมายจับ อย่างไรก็ดี ตามที่ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ก็ต้องรอดูผลว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างไร




ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 10 ราย ที่ยังไม่ได้ประสานนัดตัวมาฟ้องในวันนี้ ยังติดปัญหาเรื่องการส่งหมาย และผู้ถูกกล่าวหาบางรายได้เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนกว่า จะได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้องอีก 1 ชุด เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ขอรวมการพิจารณา เมื่อถามว่าคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหารายใดยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเข้ามาในระหว่างนี้หรือไม่




"นายโกศลวัฒน์" กล่าวว่า มีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ถูกกล่าวหากรณีสนับสนุนนายวัฒนา ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา แต่อัยการพิจารณาดูแล้วเป็นเรื่องของการประวิงคดี ซึ่งทุกคนย่อมมีสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาได้ อัยการก็จะพิจารณาด้วยเหตุผลที่สมควรหรือไม่สมควร ทุกเรื่องอัยการมีคำตอบให้ได้




ทั้งนี้ ที่ไม่ปรากฏชื่อการสั่งฟ้องนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ที่เคยตกเป็นผู้ถูกร้องที่ 2 ในสำนวน เนื่องจากทาง ป.ป.ช. ไม่ได้ส่งสำนวนที่มีชื่อนางชวนพิศเข้ามา อัยการจึงไม่มีประเด็นที่จะพิจารณาในส่วนนี้ ขณะที่ "นายวัฒนา" ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการประกันตัวว่า ศาลตีราคาประกันตน 5 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ามูลค่าหลักทรัพย์ที่ศาลกำหนดน้อยกว่าคดีอื่นๆ ของศาลฎีกาฯ ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สำหรับจำเลยอื่นศาลตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท



ส่วนวันที่ตนจะต้องขึ้นศาลครั้งแรกอีกเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ ต้องรอติดตามจากอัยการ ตนพร้อมที่จะนำหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดในคำฟ้องว่ามีประเด็นอะไรบ้าง จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำบัญชีพยานขึ้นเบิกความกี่ปาก ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้คดีมาถึงศาลนานแล้ว เพราะเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่ไม่สลับซับซ้อน ซึ่ง ป.ป.ช.ก็รู้อยู่แล้ว แต่เป้าหมายในการทำคดีก็เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองจัดการกับกลุ่มพวกตน เชื่อว่าคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อนุมัติสั่งจ่ายเงินให้ผู้เสียชีวิตในการชุมนุมเมื่อปี 2553 จะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดให้ฟ้องคดีแน่นอน




ขณะที่คดีของฝ่ายตรงข้ามตน หลักฐานมักจะสูญหาย โดนน้ำท่วม ทำให้คดีไม่คืบ อย่างเช่นคดีนาฬิกาหรู 25 เรือน ไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว "นายวัฒนา" อดีต รมว.พม. ยังกล่าวด้วยว่า ดีใจที่ได้ออกมาสนับสนุนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้กำลังใจอย่างเปิดเผยโดยที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เหมือนบางกลุ่มบางพวกที่ดูดกันเห็นๆ แล้วอ้างว่ามีอุดมการณ์ตรงกัน แห่ไปรับกันเป็นการเมืองแต่แถว่าไม่ได้เป็นการเมือง มีปืนมีรถถังแต่พูดจาขี้ขลาด ขอเชิญชวนอย่าลืมไปให้กำลังใจกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

logoline