svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

หนุ่ม 27 เปิดใจ! ถูกตร.ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้รับสารภาพ คดียิง 2 ศพ

06 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มวัย 27 เปิดใจ ถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย และบังคับให้รับสารภาพ คดียิงดับ 2 ศพ ยืนยันแค่เข้าไปช่วยถอนรถ ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงคู่อริดับคาที่


จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ค.256 ที่ผ่านมา น.ส.องุ่น พุ่มราตรี อายุ 52 ปี  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชายคือนายพงศธร หรือเอ็ม พุ่มราตรี อายุ 27 ปี ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหา พร้อมกับนายเอกชัย หรือซิ่ง ยินดีวงษ์ อายุ 33 ปี ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเดียวกันบุตรชายได้ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.สายไหม โดยให้การปฏิเสธแต่กลับถูกพ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม ทำร้ายร่างกายขณะสอบปากคำ จนได้รับอาการบาดเจ็บ ส่วนนายเอกชัย ได้หลบหนีการจับกุมจนกระทั่งมาก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพื่อหลบหนีคดีเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 พ.ค.2561 นายพงศธร เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา  ซึ่งอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 54/1 แยก4-7 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. โดยปกติตนไม่ได้พักอาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว ซึ่งในวันเกิดเหตุได้เดินทางมาหาเพื่อนที่อยู่ด้านท้ายซอย จากนั้นได้เดินเท้าออกมาโทรศัพท์ ก่อนจะพบนายเอกชัย นั่งอยู่ที่ร้านขายของชำบริเวณกลางซอย จึงทำการทักทายกันตามปกติ เนื่องจากรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ ต่อมานายเอกชัย ได้ขอตัวกลับบ้านพักโดยขับรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชล 4514 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดหันหน้าเข้า ห่างจากปากซอยประมาณ 20 เมตร ตนจึงสอบถามว่าจะกลับรถท้ายซอย หรือจะถอยหลังออก เนื่องจากเป็นซอยแคบ ทั้งนี้ นายเอกชัย ได้ตอบกลับมาว่า จะถอยหลังออก ตนจึงบอกทางจากด้านท้ายรถให้ เนื่องจากไฟดับทั้งซอย 
นายพงศธร กล่าวด้วยว่า ขณะที่นายเอกชัย ถอยรถได้เพียงเล็กน้อยก็ไปชนกับกระถางต้นไม้จนแตก ตนเกรงว่าจะไปทำข้าวของชาวบ้านเสียหายอีก จึงขออาสาขับรถให้ โดยระหว่างที่ตนถอยรถให้อยู่นั้น พบว่า นายธันวา พิมจ่อง อายุ 28 ปี และนายภาณุมาศ จีนสกุล อายุ 25 ปี ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พากันออกมาจากซอย ก่อนที่นายเอกชัย จะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงทั้งคู่จนล้มฟุบนอนแน่นิ่ง ซึ่งขณะนั้นตนไม่ทราบว่าทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องอะไร เนื่องจากอยู่ระหว่างการใช้สมาธิในการถอยรถออกจากซอย จากนั้นด้วยความตกใจตนจึงหยุดรถ ก่อนรีบลงไปดูเพื่อจะสอบถามถึงสาเหตุ แต่นายเอกชัย กลับยิงทั้งคู่ซ้ำอีกและวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็วโดยจอดรถทิ้งไว้ ซึ่งตนเป็นผู้แจ้งให้ทางมูลนิธิเข้ามาตรวจสอบ เพื่อให้การช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการณ์


หนุ่ม 27 เปิดใจ! ถูกตร.ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้รับสารภาพ คดียิง 2 ศพ




นายพงศธร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนก็ยังยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งเชิญตนไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.สายไหม โดยระหว่างการสอบปากคำภายในห้องฝ่ายสืบสวนอยู่นั้น ได้มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ ผกก. รอง ผกก.ป. และพ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือในทุกด้าน พร้อมทั้งปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี  เพราะตนเป็นเพียงผู้อาสาถอยรถให้ผู้ก่อเหตุเพียงเท่านั้น แต่จู่ๆพ.ต.ท.ประพจน์ กลับใช้มือตบเข้าใบหน้าตนอย่างจัง 1 ครั้ง จนร่างตกจากเก้าอี้ หล่นไปนอนฟุบลงกับพื้น ก่อนใช้เท้ากระทืบตนซ้ำ จนต้องเอาแขนออกมากันศรีษะทั้ง 2 ข้าง เมื่อรองเท้าแตะนายตำรวจหลุด ยังเอามาตีที่ศรีษะ พร้อมทั้งให้ตนยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ แต่ตนไม่ยิมยอมจึงถูกกักตัวไว้ 48 ชั่วโมง พร้อมทั้งถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตนไปฝากขังต่อศาลจังหวัดมีนบุรี โดยตนยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว เป็นเงินสดจำนวน 1 แสน เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา


"จากนั้นตนจึงรีบเดินทางไปตรวจร่างกายทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน โดยแพทย์ระบุว่า ถูกทำร้ายร่างกายจริง พร้อมทั้งให้ยามารับประทานอีกด้วย ก่อนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานจน กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา  ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทุกด้าน  แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่รัฐฯ เพียงรายเดียวทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนจะขอสู้คดีให้ถึงที่สุด" นายพงศธร กล่าว

logoline