อธิบดีกรมกิจการสตรี โร่เยี่ยมสาวเหยื่อโดนเเฟนหนุ่มไลฟ์สดทำร้าย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ิ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอาการของน.ส.กุลดาราหรือนีต้า ยีสมัน ผู้เสียหายที่ถูกนายชัยชนะหรือเอ็ม ศิริชาติ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเลขที่9 ชั้น15 อาคารนวราชจักรี รพ.นพรัตน์ราชธานี ได้โพสต์เฟสบุ๊กว่า "แอดมิน รพ.4 วันแล้ว อาการดีขึ้นเป็นลำดับ สภาพจิตใจดีมากๆ กำลังใจดีมากๆค่ะ วันนี้สระผมได้แล้วน่ะ ไม่แข็งเป็นเสาบนหัวแล้วน่ะ อีกไม่กี่วันคงจะได้มาแถลงเองแล้ว เพราะไม่มีใครเข้าใจ เท่าตัวของนีต้าเองน่ะ ขอบคุณทุกคำปลอบใจ กำลังใจ นะคะ" พร้อมกับอัพเดทรูปภาพหน้าปกใหม่ เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นภาพถ่ายคู่กับนายชัยชนะสมัยที่ยังหวานชื่น โดยมีคนโดยมีคนเข้าไปกดไลค์ให้กำลังใจน้องนีต้ากันจำนวนมาก โดยขอให้หายไวๆ และผ่านเรื่องร้ายนี้ได้ด้วยดี


ต่อมาเวลา 12.00 น.นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (ศปก.สค.) และนักสังคมสงเคราะห์เดินทางเข้าเยี่ยม น.ส.กุลดาราหรือนีต้า ยีสมัน ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ

นายเลิศปัญญา กล่าวว่าวันนี้มาในนามของพม. เพื่อมาเยี่ยมน้องนีต้า มอบกระเช้าและดูอาการ ซึ่งจากที่ได้เข้าเยี่ยมพื้นฐานครอบครัวน้องดีมาก สภาพจิตใจดีเยี่ยม ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนในด้านของอาการน้อง เวลานี้ทางแพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อ หรือกับใส่เฝือกอ่อนบริเวณนิ้วก้อยข้างซ้าย ในส่วนของการดำเนินการช่วยเหลือ สำหรับเคสนี้ไม่ใช่ความรุนแรงในครอบครัว และเป็นการดำเนินคดีอาญา ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามคดีลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายจากคนในครอบครัวหรือคนภายนอกครอบครัวก็ตาม อย่างเคสนี้เกิดจากคนใกล้ชิด ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วเรานิ่งเฉย ก็จะถูกกระทำซ้ำเรื่อยๆและรุนแรงขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุควรแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน การที่บอกว่ารักมากแล้วไม่แจ้งคิดที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการคิดที่ผิด ผู้ถูกกระทำต้องได้รับการคุ้มครอง ผู้กระทำก็จะถูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ถ้าติดเหล้า ติดยา ก็จะได้รับการบำบัด ทำให้ไม่เกิดเหตุอีก เพราะการกระทำถ้าถูกกระทำซ้ำๆแล้ว ซ้ำเล่าไม่แจ้ง ผู้ถูกกระทำอาจจะกลายเป็นผู้กระทำซะเอง ซึ่งมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ในส่วนของน้องนีต้า หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็อยากให้น้องมาช่วยงาน มาเป็นวิทยากร


นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ผู้ชายมีค่านิยมและเจตคติที่ไม่เหมาะสม เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงกับชาย แนวคิดที่ว่าแฟนหรือคู่รักเป็นสมบัติของตน ผู้ชายมีอำนาจเหนือผู้หญิง รวมทั้งจากการอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว ความเชื่อที่ว่าปัญหาความรุนแรงเป็นเรื่องส่วนตัว จึงมักพยายามปิดเป็นความลับ และทำให้คนในสังคมไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวและให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นอยากจะขอให้ผู้หญิงหรือทุกคน เมื่อประสบกับปัญหาความรุนแรงให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าทนกับปัญหาโดยคิดว่าคนรักหรือแฟนจะเปลี่ยนพฤติกรรมเอง เมื่อประสบปัญหาหรือผู้ที่พบเห็นเด็กหรือสตรีถูกทำร้าย ขอให้รีบแจ้งได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรสายด่วน 1300ซึ่งมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วบริการในภาวะวิกฤตตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวที่คอยดูแลช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาอีกด้วย อย่างเคสนี้ แม้จะเป็นคดีอาญา แต่ถ้าทางครอบครัวต้องการให้ช่วยดูแลเรื่องสภาพจิตใจ เรื่องคดีความก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ทันที