svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ไลฟ์สไตล์

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย

23 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายได้ว่า เราเดินมาถึงวันนี้ได้อย่างไร วันที่คนชุมชนป้อมมหากาฬจำต้องเอ่ยคำเชื้อเชิญเพื่อน พี่น้อง มิตรสหาย กัลยาณมิตรทุกผู้ทุกคนมารวมพลกันเป็นครั้งสุดท้าย



ชาวชุมชนป้อมมหากาฬจัดงานอำลาครั้งสุดท้ายหลังจากที่ได้ต่อสู้เพื่อสิทธิในที่อยู่อาศัยกับกรุงเทพมหานครมานานถึง 26 ปี

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย



บ้านไม้ทรงไทยสวยงาม วันนี้เหลือเพียงซากไร้ผู้คนอยู่อาศัย ชุมชนที่เคยมีเสียงหัวเราะวันนี้กลับเงียบเหงา

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย



ชาวชุมชนป้อมมหากาฬที่ยังอาศัยอยู่ 13 หลังคาเรือนสุดท้าย รวมตัวกันเพื่อจัดงานอำลาชุมชนป้อมมหากาฬ ท่ามกลางความเศร้าโศกและน้ำตา ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มาอย่างยาวนานร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ

สุภาณัช น้อยประจวบสุข เร่งมือเก็บของย้ายบ้านให้ทันวันอังคารนี้ ทิ้งไว้แต่เพียงความทรงจำ

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย



ประธานชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวคำอำลา ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมต่อสู้มายาวนานถึง 26 ปี หลังจากคืนที่แก่กรุงเทพมหานคร ต่างคนต่างก็กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ บางส่วนยังไม่มีที่ไปต้องอาศัยกับพี่น้องเครือข่าย ชุมชนรถไฟสายสีแดง โดยอนาคตวางแผนจะซื้อที่ดินย่านพุทธมณฑลสาย 2 เป็นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่

การต่อสู้ของชาวชุมชนป้อมมหากาฬ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2535 หลังกรุงเทพมหานครออกกฎหมายเวนคืนที่ดืน เพื่อนำพื้นที่ไปสร้างสวนสาธารณะ ขณะที่นักประวัติยืนยันหลักฐานทางกายภาพของที่ดินชานพระนคร เป็นชุมชนมาตั้งแต่เริ่มสร้างกรุง

อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน สุนีย์ ไชยรส กล่าวทั้งน้ำตาว่าการล่มสลองชุมชนโบราณแห่งนี้ สะท้อนปัญหาโครงสร้างทางสังคม ความเหลือมล้ำ และปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ถูกละเลย โดยเฉพาะกับรัฐบาลทหารที่มองไม่เห็นความสำคัญของชุมชนนี้

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย



กลุ่มนักสเกตภาพ กลุ่มนี้มาวาดภาพด้วยมือ บันทึกเรื่องราวของชุมชนป้อมมหากาฬเป็นครั้งสุดท้าย พวกเขาบอกว่าแม้ภาครัฐไม่เห็นคุณค่าของชุมชนโบราณ แต่สำหรับพวกเขาจะจดจำเรื่องราวและวิถีชีวิตของผูคนที่นี่ตลอดไป

"26 ปี เหมือนว่าทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน"บทความสะท้อนความรู้สึกของชาวป้อม

เป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายได้ว่า เราเดินมาถึงวันนี้ได้อย่างไร วันที่คนชุมชนป้อมมหากาฬจำต้องเอ่ยคำเชื้อเชิญเพื่อน พี่น้อง มิตรสหาย กัลยาณมิตรทุกผู้ทุกคนมารวมพลกันเป็นครั้งสุดท้าย

การรวมพลเพื่ออำลาและปิดฉาก "ชุมชนป้อมมหากาฬ" พื้นที่ที่เราได้พยายามทำทุกทางเพื่อรักษาความเป็นชุมชนเอาไว้ โดยตลอดระยะเวลากว่า 26 ปี บนเส้นทางนี้ เราได้ผ่านทั้งร้อนหนาว ผ่านทั้งทุกข์และสุข ได้พบเจอมิตรสหาย กัลยาณมิตรมากมาย มีความทรงจำที่มิอาจลืมได้ มีการต่อสู้ที่มิิอาจลืมลง

และขณะเดียวกัน เราก็เผชิญกับการจากพราก ความขัดแย้ง และความสูญเสียมากมาย เผชิญกับความเจ็บปวดและอ่อนแอภายในตัวตนของเราเอง เผชิญกับแรงเสียดทานที่โถมทับเข้ามา จนเราไม่อาจต้านทานได้ไหว

และท้ายที่สุด เราจะต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า วันหนึ่งข้างหน้า ชุมชนป้อมมหากาฬ อาจเป็นเพียงชื่อเรียกขาน เป็นเพียงเรื่องบอกเล่า ที่ในไม่ช้าก็จะลบหายไปจากประวัติศาสตร์ชนชั้นของมหานครแห่งนี้

...มันช่างยากเหลือเกินนะ ที่เราจะอธิบายความรู้สึก อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ด้วยตัวอักษรเพียงไม่กี่ประโยค ไม่กี่ย่อหน้า และหวังไปว่ามันจะสามารถสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจได้ว่า เราเดินมาถึงวันนี้ได้อย่างไร

วันนี้... เราเจ็บปวด แต่เราจะพยายามเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดนี้ด้วยความหวัง

"ถ้าจะจดจำเรา ขอให้จดจำเรื่องราวที่เราต่างได้ทำร่วมกัน จดจำความพยายามของเรา จดจำและเรียนรู้จากบทเรียนของเรา"

ฟังเสียงชาวป้อมมหากาฬ ในวันที่ต้องโยกย้าย


logoline