"สายป่าน" ยัน ไม่มีส่วนรู้เห็น "แก๊งเมจิกสกิน"

จากกรณีที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมพนักงานสอบสวน ได้ติดตามความคืบหน้าคดีการจับกุมแก๊งผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม ปลอม อย. ในเครือข่าย บริษัท เมจิก สกิน จำกัด ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหา และยึดของกลางจำนวนมาก โดยมีการระบุว่ามีบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งดารา เซเลบ และ เน็ตไอดอล กว่า 16 คน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการรีวิวและใช้ผลิตภัณฑ์ และต้องเชิญตัวมาให้ข้อมูล เพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายการร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่

โดยหนึ่งในดาราที่รีวิวและใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือข่าย บริษัท เมจิก สกิน จำกัด คือ "สายป่าน" อภิญญา สกุลเจริญสุข ดาราสาวชื่อดัง


"ป่านได้ติดตามข่าว แต่แบบที่ตื้นมากๆ เลย ซึ่งเรามารู้เรื่องว่าสวมอย. หลังจากที่เราทำการรีวิวไปแล้ว โดยเบื้องต้นคือป่านก็รับจ้างรีวิวเหมือนพี่ๆ นักแสดงอีกหลายคน ส่วนที่ว่าจะมีการเรียกตรวจสอบ เรายินดี ถ้าเกิดสมมติมีข้อมูลอันอื่นที่ป่านสามารถให้ได้ ป่านก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลตรงนั้นเพิ่ม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่มาแต่อย่างใด"

กังวลไหมว่ามันจะมีผลอย่างอื่นตามมา


"จริงๆ อย่างที่ป่านบอกว่ามันเป็นการรับรีวิวสินค้าทั่วไปเลย กรณีของป่านก็คงไม่ต่างจากนักแสดงๆ คนอื่นๆ คงเป็นกรณีคล้ายๆ กัน ส่วนเรื่องความคืบหน้า ป่านเองก็ไม่ทราบ เห็นในข่าวคือการเข้าไปที่โรงงานวันนี้ (22 เม.ย.) ก็คงเป็นไปตามลำดับขั้นตอน"

ก่อนที่จะรับรีวิวได้มีการตรวจสอบสินค้าก่อนไหมว่ามี อย. หรือเปล่า


"ไม่ได้ตรวจสอบ อันนี้ป่านก็ยอมรับจริงๆ คือมันก็เป็นไม่เรื่องปกติที่เรารับผลิตภัณฑ์นี้มาแล้วเราต้องไปตรวจสอบว่าเลขผลิตภัณฑ์นี้มีการจด อย.จริงหรือเปล่า หรือว่ามีการสวมหรือเปล่า โดยปกติทั่วไป ยี่ห้อนี้หรือการไปซื้อเรื่องสำอางค์ หรือการไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมบำรุงที่ขายตามท้องตลาด ป่านว่าไม่ใช่ป่านคนเดียวที่จะไปตรวจสอบอย. คือเราเห็นอย. เราก็คิดว่าปลอดภัยสำหรับเราแล้ว สำหรับผู้บริโภค ซึ่งป่านเลยไม่ได้ตรวจสอบตรงนี้ ซึ่งพอป่านรีวิวลงคลิปปุ๊บ ก็คือจบ แต่ทันทีที่ป่านรู้ว่าขั้นตอนและกระบวนการของเขาไม่ถูกต้อง ป่านก็ทำการลบคลิปทันทีเลย"


ไม่ได้มีการเป็นหุ้นส่วนหรือผูกพันยังไงกับสินค้าใช่ไหม


"ไม่มีค่ะ"


รู้สึกว่าตัวเองไม่รอบคอบไหมที่ไม่ได้เช็คก่อน


"คือจริงๆ แล้ว จะบอกวาเป็นการสัพเพร่าหรือไม่รอบคอบหรือเปล่า อันนี้ป่านต้องบอกตรงๆ ว่าป่านเองมีหน้าที่ทำงาน หน้าที่ของป่านคือทำงานให้มันเสร็จสิ้น หลังจากที่เราได้รับจ้างมา ให้ทำงานที่เราควรจะทำ ดังนั้นเรื่องของการที่ป่านไม่ตรวจสอบ หรือใครไม่ตรวจสอบ หรือคนทั่วไปก็มีการตรวจสอบอย.กันอยู่แล้ว แต่เราก็มารู้ว่าจริงๆ แล้วมันมีการสวม อย. กันเกิดขึ้น"

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนในการรับงานรีวิวสินค้ามากขึ้นไหม


"ก็ต้องสกรีน (ตรวจสอบ) ให้มากขึ้น ต้องศึกษาให้ดีมากขึ้น ว่าที่มาที่ไปเป็นแบบไหน"


ที่ผ่านมาเคยมีการตรวจสอบไหมกับสินค้าที่เรารีวิว


"น้อยค่ะ น้อยมากๆ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่จะเป็นการที่ว่าคนรู้จักแนะนำกันมาเรื่อยๆ มากกว่า"


กลัวไหมว่าจะเอาชื่อเราไปใช้มากกว่านี้ไหม


"ก็คงไม่มากไปกว่านี้แล้วมั้ง สำหรับแบรนด์นี้ ทุกอย่างน่าจะยุติแค่นี้ไม่ว่าจะเป็นป่านเอง หรือพี่ๆ นักแสดงคนอื่นก็ตาม น่าจะจบแค่ตรงนี้หรือเปล่า อันนี้ป่านไม่แน่ใจ ซึ่งหลายๆ คนก็รู้อยู่แล้วว่าแบรนด์นี้เอาชื่อเราไปใช้ เอาชื่อเราไปแอบอ้าง เพื่อส่งเสริมการขายเขา หลายๆ คนก็คงไม่ไปซื้อ ไม่ไปอุดหนุนเขาเป็นลูกค้าต่ออยู่แล้ว"

ได้มีการจ้างให้เรารีวิวสินค้านี้ไปกี่ครั้ง


"ครั้งเดียวค่ะ"


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อเสียงเราเสียหาย


"เท่าที่ป่านรู้จักแบรนด์นี้ คือเขาขายกันมาก่อนหน้าที่จะให้ดารารีวิวแล้ว ดังนั้นการที่ให้ดาราไปรีวิวแค่เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์เขา สำหรับตัวดาราเอง ไม่ว่าจะเป็นป่าน หรือพี่ๆ นักแสดงคนไหนไม่มีใครรู้ก่อนว่ากระทำสิ่งนี้ไปแล้วจะทำให้ชื่อเสียงด่างพร้อย หรือเสียชื่อเสียง หรือเป็นการหลอกประชาชน ป่านเชื่อว่าทุกคนไม่มีความตั้งใจที่จะหลอกประชาชน หรือหลอกผู้บริโภคอยู่แล้ว มันเกิดจากการที่เราไม่รู้มากกว่า เขาจ้างมา เราก็ทำงานที่ได้รับให้มันเสร็จไปเท่านั้นเอง"

กลัวคนจะเข้าใจผิดไหม


"ถ้าใครที่เข้าใจผิด ป่านก็ขอบอกตรงนี้เลยว่า ป่านไม่ได้รับรู้ในการกระทำผิดของกฎหมาย หรือเรื่องของ อย. ใดๆ ทั้งสิ้น ในก่อนหน้านี้ที่จะรับงานนี้เลย"


จะมีการแจ้งความเจ้าของผลิตภัณฑ์ไหม ที่ทำให้เราเสียชื่อเสียง


"คงยัง แต่ถึงป่านไม่ทำก็มีคนอื่นทำอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับป่านเอง ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับป่านเองมากกว่า"


ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปให้ข้อมูลมีหวั่นใจไหม


"ป่านไม่หวั่นใจอะไรเลย ถ้าเกิดเรียกมา หรือให้ป่านไปสอบเพิ่ม ป่านยินดีที่จะให้ข้อมูลทุกอย่างเลยเท่าที่ป่านรู้นะคะ"