"EA Anywhereได้รุดหน้าขยายสถานีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้1,000สถานี ภายในปี2561นี้ โดยได้รับการตอบรับจากพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอย่างดี นับว่าปัจจุบันมีการขยายครอบคลุมพื้นที่ในวงกว้าง ตัวอย่าง ปัจจุบันหากเดินทางไปในเมืองท่องเที่ยวอย่างเช่น หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะมีสถานีEA Anywhereให้บริการตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษกOPG AMAZONสถานีบริการที่วังมะนาว ร้านอาหารครัวบ้านขวัญ เพชรบุรีFN OUTLETโรงแรมHoliday Inn Vana Nava Hua Hinและสวนน้ำVana Nava Hua Hinเป็นต้น"
สำหรับรูปแบบการให้บริการของEA Anywhereที่อัดประจุไฟฟ้ามีหัวจ่ายอยู่ 2 ลักษณะ คือ
1. แบบDCชาร์จเร็วหรือควิกชาร์จ ภายใน 7 นาที วิ่งได้ระยะทาง 100 กม
2. แบบACชาร์จปกติ 1-2 ชม. 2 หัวจ่าย รองรับได้กับรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าทุกค่ายสามารถชาร์จไฟฟ้าได้ โดยจะมีหัวชาร์จTPYE1และTYPE2ที่สามารถใช้ได้กับทุกรุ่น เบื้องต้นมีสถานีชาร์จจะมี 3 ขนาด คือ เอส,เอ็ม,แอล ขนาดเอส 3 หัวจ่าย แบ่งเป็นแบบDC2 หัว และAC1 หัวจ่าย ขนาดเอ็ม 4 หัวจ่ายDC1 หัว และAC3 หัว และขนาดแอล คือ หัวจ่ายแบบDC1 หัว และแบบACที่จะกระจายแยกจุดออกไปติดตั้งยังจุดจอดรถต่าง ๆ
"EA Anywhereเราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยอย่างสูงสุด ด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากIECSTANDARDมีทั้ง แบบไฟฟ้ากระแสตรง และ กระแสสลับ พร้อมให้บริการกับ รถยนต์plugin hybrid ,BEVรถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อและทุกรุ่น อีกทั้งยังใช้แอปพลิเคชั่นในการเช็คตำแหน่งของสถานี จองล่วงหน้าเพื่อรับบริการ ชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในส่วนของ แอปพลิเคชั่นAndroidและIOSเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ สามารถตรวจสอบเส้นทางหรือจุดที่เป็นที่ตั้งของสถานีให้บริการ ทั้งนี้EA Anywhereยังคงเปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ต้องการเปิดสถานีชาร์จไฟฟ้า เพื่อรองรับเทรนด์รถไฟฟ้าที่กำลังมาแรง และเร็วกว่าที่คิด"
คุณธนพัชร์ กล่าวต่อว่า จากความตั้งใจของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน ) ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ซึ่งปัจจุบัน บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้าEA Anywhereได้ต่อยอดธุรกิจโดยจัดตั้ง บริษัท ไมน์ โมบิลิตี้ จำกัด ภายใต้เครื่องหมายการค้าMINE (MISSION NO EMISSION)เพื่อคิดค้น และพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทฯ และวิศวกรชาวไทย และได้อวดโฉมยานยนต์ต้นแบบทั้ง3รุ่น ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่39ที่ผ่านมา
"การผลิตรถยนต์ของ ไมน์ โมบิลิตี ไม่ได้เป็นเพียงรถต้นแบบเท่านั้น แต่บริษัทฯ มีแผนที่จะผลิตรถดังกล่าวออกจำหน่ายภายในปี2562ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการผลิต ซึ่งเมื่อถึงเวลาผลิตยานยนต์ไฟฟ้าก็จะสามารถพัฒนาให้เหมาะสมได้"
สำหรับการอวดโฉมรถต้นแบบในงานนี้ เป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าว่ามีความต้องการรถแบบใด เพราะบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เป็นรถที่คนไทยจับต้องได้ โดยในเบื้องต้นรุ่นCity EV Conceptราคาไม่เกิน6แสนบาท ส่วนรุ่นMPV EV Conceptราคาไม่เกิน1ล้านบาท สำหรับรุ่นSport EV Conceptยังไม่สามารถกำหนดราคาได้ โดยรุ่นที่คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจและความนิยมจากผู้ซื้อมากที่สุดน่าจะเป็นรุ่นMPV EV Concept