63 ปี ไอน์สไตน์ อัจฉริยะโลกไม่ลืม

ซึ่งจุดประกายให้เขาสนใจความลับในธรรมชาติ เมื่ออายุ 17 ปีย้ายไปสวิสเซอร์แลนด์ จบโรงเรียนโปลีเทคนิคประจำเมืองซูริก อายุ 26 ปีเขาเสนอผลงาน 3 เรื่องที่ส่งผลสะเทือนต่อวงการฟิสิกส์ ได้แก่ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก(Photoelectric effect), การเคลื่อนที่แบบบราวน์ (Brownian motion) และ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ(special relativity)



ปี 2458 ค้นพบ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General relativity) ซึ่งมีสูตรสมการอันโด่งดังE=mc2 ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20

ปี 2464 เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ปีต่อมาเขาได้รับรางวัล โนเบล สาขาฟิสิกส์ จากการค้นพบปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์กวาดล้างชาวยิว ไอน์สไตน์จึงอพยพไปอยู่ที่อเมริกาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และร่วมสนับสนุนอเมริกาสร้างระเบิดอะตอมแข่งกับเยอรมัน ปี 2488 ระเบิดอะตอมถูกทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ทำลายล้างชาวญี่ปุ่นและประชาชนที่อื่นทั่วโลก ไอน์สไตน์เศร้าสะเทือนใจมากจึงอุทิศชีวิตให้กับการต่อต้านสงครามและส่งเสริมสันติภาพโลก จนวาระสุดท้ายของชีวิต



18 เมษายน พ.ศ. 2498 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซี ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด



ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ